ต่อภาษีรถ เลิกใช้รถ

เลิกใช้รถ ต้องแจ้งการไม่ใช้รถ มิเช่นนั้นทะเบียนอาจถูกระงับ

นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีช่องทางให้เลือกใช้บริการหลายช่องทาง ซึ่งดำเนินการได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน แต่ปรากฏว่ายังมีเจ้าของรถบางรายที่ไม่ได้มาติดต่อชำระภาษีรถประจำปี และไม่ได้ดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถกับนายทะเบียน เนื่องเข้าใจผิดว่ารถที่สูญหาย ชำรุด…

Home / NEWS / เลิกใช้รถ ต้องแจ้งการไม่ใช้รถ มิเช่นนั้นทะเบียนอาจถูกระงับ

ประเด็นน่าสนใจ

  • กรมการขนส่งทางบก เผย! กรณีหยุดใช้รถ เลิกใช้รถ หรือรถชำรุดสูญหาย เป็นเหตุให้รถใช้งานไม่ได้ทุกกรณี ต้องแจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่
  • หากรถค้างภาษีเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที
  • เมื่อรถถูกระงับทะเบียน หากต้องการใช้รถอีก ต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่

นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก อำนวยความสะดวกให้เจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีช่องทางให้เลือกใช้บริการหลายช่องทาง ซึ่งดำเนินการได้ก่อนครบอายุภาษี 90 วัน

แต่ปรากฏว่ายังมีเจ้าของรถบางรายที่ไม่ได้มาติดต่อชำระภาษีรถประจำปี และไม่ได้ดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถกับนายทะเบียน เนื่องเข้าใจผิดว่ารถที่สูญหาย ชำรุด หรือเลิกใช้แล้วไม่ต้องชำระภาษีแล้ว

ซึ่งความเป็นจริงเจ้าของรถจะต้องมาติดต่อขอแจ้งการไม่ใช้รถต่อนายทะเบียน ณ สำนักงานขนส่งที่รถจดทะเบียนไว้ หากไม่มาติดต่อดำเนินการจะต้องชำระภาษีและค่าปรับ และหากเป็นการค้างชำระภาษีรถเกิน 3 ปี ทะเบียนจะถูกระงับทันที

หากมีความประสงค์ใช้รถดังกล่าวต่อไป จะต้องดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนรถใหม่เท่านั้น โดยต้องชำระภาษีประจำปีย้อนหลังพร้อมเงินค่าปรับเพิ่ม และคืนแผ่นป้ายทะเบียนเดิมก่อนเข้าสู่กระบวนการจดทะเบียนรถใหม่

ดังนั้น หากเจ้าของรถรายใดมีความจำเป็นต้องหยุดใช้รถ ขอให้ติดต่อแจ้งการไม่ใช้รถ ณ สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ ใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ และแบบคำขอแจ้งการไม่ใช้รถ

และเมื่อเจ้าของรถมีความประสงค์ขอใช้รถต่อ ก็สามารถดำเนินการแจ้งใช้รถดังกล่าวได้ โดยใช้หลักฐานคู่มือจดทะเบียนรถ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน แผ่นป้ายทะเบียนรถ แบบคำขอแจ้งใช้รถที่แจ้งไม่ใช้รถไว้ และหลักฐาน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ