ประเด็นน่าสนใจ
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พูดคุยกับประชาชน ผ่านรายการ Government Weekly ทางเพจ ไทยคู่ฟ้า
- ย้ำมีมาตรการดูแลปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมฝากเตือนประชาชนเรื่องอุบัติเหตุ
- มีผู้เข้ารับชมรายการกว่า 2 หมื่นครั้ง กดไลค์และอีโมชั่นต่างๆ กว่า 2 พันไลค์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมจัดรายการกับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรายการ Government Weekly โดยเผยแพร่ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ‘ไทยคู่ฟ้า’ ในช่วงเวลา 15.00 น. วันนี้ (4 ต.ค.62)
โดยนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ว่ารัฐบาลได้ใส่ใจปัญหาดังกล่าวมาโดยตลอด ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ทั้งต่างประเทศและภายในประเทศ เช่น การจราจร การเผาวัชพืช และจากโรงงาน โดยต้องมาดูว่ามีอันตรายอย่างไร โดยการแก้ปัญหานี้ ต้องแก้ด้วยความเข้าใจไม่ใช่สร้างความตื่นตระหนกในกับพี่น้องประชน
ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติแผนปฏิบัติการ 4 มาตรการด้วยกัน และหลังจากประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากับผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงขอความร่วมมือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการตรวจเข้มเรื่องควันดำ โดยรัฐบาลมีหน้าที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนปลอดภัยแต่ต้องร่วมมือกัน พร้อมได้สั่งการเจ้าหน้าที่ให้ใช้มาตรการอย่างละมุนละม่อม สิ่งสำคัญต้องไม่ประมาท โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวที่ฝุ่นละอองจะคล้ายถูกโดมครอบ ซึ่งเป็นประจำทุกปี และทางรัฐบาลได้มีมาตรการในการดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ระบุถึงมาตรการ ‘ชิมช้อปใช้’ ได้มีกระแสตอบรับที่ดี แต่เนื่องด้วยโคตรการดังกล่าวระบบเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ อาจมีปัญหาต่างๆเกิดได้ อาทิ การสแกนใบหน้าไม่ผ่าน ซึ่งหากมีมาตรการในระยะที่ 2 ก็ต้องไปแก้ปัญหาเหล่านี้เพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ได้ฝากถึงประชาชนถึงเรื่องอุบัติเหตุ โดยทุกวันนี้ทางรัฐบาลต้องเข้มงวดในเรื่องบังคับใช้กฎหมายมายิ่งขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยเน้นย้ำและเข้มงวดกับผู้ประกอบการรถ-เรือโดยสารสาธารณะ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ และคนขับ ต้องมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการของประชาชน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดคุยในรายการเวลาประมาณ 15 นาที มีผู้คนเข้ามารับชมกว่า 2 หมื่น พร้อมกดไลค์และอีโมชั่นอื่นๆ รวมกว่า 2,800 ไลค์ และมีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นกว่า 1 พัน คอมเมนต์