พ่อ ‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ เปิดใจ หลังมีกระแสดราม่าในโซเชียล

ประเด็นน่าสนใจ

กรณีที่เฟซบุ๊ก “Supaporm Suwannaket“ มีการเผยแพร่ภาพ และระบุข้อความ “นี่แหล่ะพ่อ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ตัวจริงถึงจะเลิกกับแม่เขา แต่เค้าก็ไม่เคยทอดทิ้งลูก ขอเงินมาก็ส่งให้ตลอดแต่ตอนนี้ลูกดังแล้ว กลับมองไม่เห็นหัวพ่อเลย ทุกวันนี้ยังแต่งเพลงให้ลูกตลอดไม่ว่าลูกจะโทรมาเวลาไหน

แต่พอทักไปขอค่าแต่งเพลงลูกกลับว่ามาสารพัดเหมือนไม่ใช่พ่อ พ่ออยู่เบื้องหลังตลอดเพลง #เลิกคุยทั้งอำเภอก้อช่วยแต่ง แต่ลูกน่าจะมองเห็นหัวพ่อมั้ง และก็หลายๆเพลง พ่อเขาช่วยแต่งตลอด พอจะต้องการเอาเพลงโทรหาพ่อได้ตลอด ตอนนี้พ่อเค้าก็ความเป็นอยู่ลำบาก ทำงานก้อไม่ค่อยได้ป่วยมานานหลายปี เข้าออกโรงพยาบาลนอนทีเป็นเดือน ลูกสาวก็ไม่เคยคิดที่จะมาเยี่ยมเลยสักครั้งไม่เคยสงสารพ่อ

พ่อโทรไปขอค่าแต่งเพลงที่แต่งให้ลูก กลับว่ามองพ่อเหมือนขอทาน ลูกเนรคุณแบบนี้ช่วยๆแชร์ให้คนรับรู้ความจริง เด็กคนนี้ที่ดังได้เพราะพ่อเค้าอยู่เบื้องหลังแต่เขามองไม่เห็นหัวพ่อเขาเลย ออกรายการไม่เคยเอ่ยชื่อพ่อเลย ทีตัวเองดังได้เพราะมีพ่ออยู่เบื้องหลังตลอด ช่วยแชร์กันหน่อยค่ะ”

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ชาวเน็ตเข้าแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งความคิดเห็นแยกเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยผู้กับที่โพสต์ และฝ่ายที่ออกมาปกป้องเจนนี่

เปิดใจ!! พ่อเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น

ล่าสดวันนี้ 25 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าว MThai เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 250 ริมถนนสายนครศรีธรรมราช – สงขลา หมู่ 1 ต.ดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นร้านตัดผมและเป็นบ้านของ นายอภินันท์ สุวรรณเกตุ อายุ 44 ปี หรือ ”ลุงนัน” ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของ น.ส.รัชนก สุวรรณเกตุ อายุ 25 ปี หรือ ”เจนนี่ ” นักร้องสาวชื่อดังเพลง ”ได้หมดถ้าสดชื่น” พี่สาวของ ”ลิลลี่” เพลง ”เลิกคุยทั้งอำเภอ ” เปิดเผยความในใจกับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดยพ่อของเจนนี่ เปิดเผยว่า ความจริงตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนอยู่เบื้องหลังการแกะเพลง และให้คำปรึกษาแต่งเพลงต่างๆให้กับลูกสาวมาโดยตลอด คล้ายกับเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง ซึ่งทุกๆครั้งที่ตนแต่งหรือแก้เพลงต่างๆให้กับลูกสาวเสร็จแล้ว ลูกสาวจะให้เงินเป็นค่าตอบแทนครั้งละ 2–3 พันบาท เป็นครั้งคราว จะเรียกว่าเป็นค่าจ้างให้กับตนก็ได้

แต่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ ตนแต่งเพลงๆหนึ่งให้กับลูกสาวเสร็จแล้ว ก็โทรไปถามลูกสาวว่าเป็นไงบ้าง ลูกค้าพอใจหรือไม่ ต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง ซึ่งลูกสาวก็บอกว่าเรียบร้อยดี ตนจึงเอ่ยปากขอเบิกเงินล่วงหน้าจากลูกสาวก่อนสัก 1 พัน แต่ปรากฏว่ากลับถูกลูกสาวตอบกลับมาว่า “พ่ออย่าพูดแต่เรื่องเงิน เพิ่งให้มา 3 พัน ก่อนหน้านี้แล้ว”

นำเรื่องไปเล่าให้พี่สาวฟัง จนพี่สาวไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก

ตนได้ยินคำพูดของลูกสาวถึงกับจุกหน้าอก น้อยใจลูกสาวที่พูดกับตนแบบนี้ ทั้งที่อยู่เบื้องหลังการแต่งเพลงหรือแก้เพลงให้ลูกสาวมาตลอด ตนถึงกับร่ำไห้และเป็นลมทั้งคืน และได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พี่สาวฟัง ทำให้พี่สาวของตน ซึ่งเป็นป้าของเจนนี่โกรธ ไปเขียนโพสต์ตำหนิลูกสาวที่ไม่ค่อยมาดูแลพ่อเลย จนเกิดเรื่องราวใหญ่โต

และล่าสุดทราบว่า ”เจนนี่ ” แจ้งความกับพี่สาวและญาติของตน 2 – 3คน เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.)ที่ สน.แห่งหนึ่งใน กทม. ตนอยากให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นยุติลงเพียงเท่านี้ ขอให้ลูกสาวไปถอนแจ้งความพี่สาวและญาติๆของตน

พ่อขอโทษ…

“พ่อขอโทษแทนป้าของลูกสาวด้วย จะให้ไหว้ให้กราบขอโทษพ่อก็ยอม ต่อไปพ่อจะขออยู่เฉยไม่ขอยุ่งเกี่ยวอะไร และไม่ขอเงินจากลูกสาวอีกแล้ว พ่อขออยู่ตามประสาของพ่อแบบนี้ พ่อยังรักลูกสาวคนนี้มากเหมือนเดิม พ่อขออวยพรให้ลูกสาวร่ำรวยขึ้นไปอีก มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานตลอดไป”

ตนขอยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเงินจากลูกสาวเดือนละ 2 – 3 หมื่น ตามที่เป็นข่าวเลย ได้เพียงแค่ 2 – 3 พันบาท เป็นครั้งคราวเท่านั้น นายอภินันท์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งๆน้ำตาไหลพรากตลอดเวลา

นายอภินันท์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันตนป่วยโรคเบาหวานมาประมาณ 6 – 7 ปี แล้ว และยังต้องเข้า – ออก โรงพยาบาลมาตลอด และอาศัยอยู่กับนางก้าน สุวรรณเกตุ อายุ 84 ปี แม่ของตน และญาติๆที่ดูแลตน ทุกวันนี้แม้ตนจะป่วยแต่ตนก็ยังคงทำงานรับจ้างเล่นดนตรี ตำแหน่งคีย์บอร์ดตามงานต่างๆที่เขาจ้าง เพื่อหารายประทังชีวิตไปวันๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ล่าสุดที่บ้านของเจนนี่ ซึ่งอยู่ใน 170/36 หมู่ 4 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้น เดี่ยวขนาดใหญ่ พบว่าบ้านถูกปิดเงียบมีเพียงรถยนต์เก๋งสีขาว จำนวน 2 คัน จอดหน้าบ้าน แต่ไม่มีใครอยู่ภายในบ้าน จากการสอบถามเพื่อนบ้านคนหนึ่งทราบว่า คนในบ้านของเจนนี้ ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ ซึ่งคาดว่าเดินทางไปหาเจนนี่ ที่กรุงเทพมหานคร