น้ำท่วม ปิดการจราจร พายุ สถาณการณ์น้ำท่วม

เกาะติด! สถานการณ์น้ำท่วม 3 ก.ย.

เวลา 17.00 น.รายงานสถานะการณ์เพิ่มเติม เหตุการณ์ทางเบี่ยงสะพานขาด ทางหลวงหมายเลข 101 กม.459+141 พื้นที่บ้านเวียงสอง ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้างจ.น่าน ในพื้นที่โครงการก่อสร้าง สายทุ่งช้าง – เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้…

Home / NEWS / เกาะติด! สถานการณ์น้ำท่วม 3 ก.ย.

ประเด็นน่าสนใจ

  • ถนนแจ้งสนิท สายหลักภาคอีสาน จากอุบลราชธานี – ยโสธร ถูกตัดขาด เนื่องจากน้ำท่วม ให้ประชาชนใช้เส้นทางอุบลราชธานี – ค้อวัง – ยโสธรแทน
  • กอปภ.ก.เน้นย้ำมาตรการรับมือผลกระทบพายุ “คาจิกิ” สั่งการศูนย์ ปภ. เขต และจังหวัดเสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

เวลา 17.00 น.รายงานสถานะการณ์เพิ่มเติม เหตุการณ์ทางเบี่ยงสะพานขาด ทางหลวงหมายเลข 101 กม.459+141 พื้นที่บ้านเวียงสอง ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้างจ.น่าน ในพื้นที่โครงการก่อสร้าง สายทุ่งช้าง – เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ น้ำป่าไหลกัดเซาะทางเบี่ยงชั่วคราว ในช่วงก่อสร้างสะพานขาด

ขณะนี้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงน่านที่ 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่โครงการก่อสร้างเข้าดำเนินการแก้ไข การจราจรสามารถผ่านได้แล้ว แต่เนื่องจากยังมีฝนตก แขวงทางหลวงน่านที่ 2 แนะนำให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวขับรถด้วยความระมัดระวัง

เวลา 16.40 น. แฟนเพจ แจ้งข่าวชาวร้อยเอ็ด รายงานว่า ที่หมู่บ้านเเก่งข่า ต.พระธาตุ อ.กิ่งเชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด ชาวบ้านต้องเอารถยนต์จอดทิ้งไว้บนถนนทางเข้าหมู่บ้าน เนื่องจากเกิดน้ำท่วม ต้องใช้เรือกลับเข้าบ้าน​ หากต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถบริจาคได้ที่ถนนผนังแม่น้ำชี​ ไม่รับเงินสด​ ขอเป็นข้าวสารอาหารแห้ง​ ยารักษาโรค​ ผ้าอนามัย​ นมผงเด็ก

น้ำท่วมที่หมู่บ้านเเก่งข่า ต.พระธาตุ อ.กิ่งเชียงขวัญ จ.ร้อยเอ็ด
https://www.facebook.com/roiettoday/videos/373981693295923/?t=31

เวลา 16.35 น. แฟนเพจ อุบลวันนี้ เผยภาพน้ำท่วม ที่บ้านดอนแดงใหญ่ ต.หนองเหล่า อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

ภาพน้ำท่วม ที่บ้านดอนแดงใหญ่ ต.หนองเหล่า อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี
ภาพน้ำท่วม ที่บ้านดอนแดงใหญ่ ต.หนองเหล่า อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

เวลาประมาณ 16.30 น.สถานการณ์​น้ำในพื้นที่​ อ.นาโพธิ์​ จ.บุรีรัมย์ นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอนาโพธิ์ เปิดเผยว่า มีมวลน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ติดต่อห้วยลำพังชู​ บริเวณบางส่วนของ ต.บ้านดู่ ต.ศรีสว่าง และต.ดอนกอก​ ซึ่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชน โดยพื้นที่ดังกล่าว​ เป็นพื้นที่รับมวลน้ำที่ต่อเนื่องมาจาก จ.ขอนแก่น และจ.มหาสารคาม​ ไหลไปลงแม่น้ำมูล

สถานการณ์​น้ำในพื้นที่​ อ.นาโพธิ์​ จ.บุรีรัมย์
  • เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเรือออกช่วยส่งข้าวส่งน้ำ ชาวบ้านบ่อแก ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เนื่องจากถนนถูกตัดขาด ต้องเดินทางด้วยเรือระยะทางประมาณ 5 กม. รถยนต์ไม่สามารถเดินทางได้
กู้ภัยนำเรือออกช่วยส่งข้าวส่งน้ำ ชาวบ้านบ่อแก ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ขอบคุณภาพจาก แจ้งข่าวชาวร้อยเอ็ด
กู้ภัยนำเรือออกช่วยส่งข้าวส่งน้ำ ชาวบ้านบ่อแก ต.บึงเกลือ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ขอบคุณภาพจาก แจ้งข่าวชาวร้อยเอ็ด
เวลา 16.20. น.บ้านกอก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ขอบคุณภาพจาก : วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี

เวลาประมาณ 14.45 น.แฟนเพจ อุบลวันนี้ รายงานว่า น้ำลำเซบก ไหลเอ่อเข้าท่วม บริเวณสะพานบ้านท่าศิลา อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นเส้นทางเลี่ยงไปอ. ตระการพืชผล รถเล็กสัญจรไปมาอย่างยากลำบาก เนื่องจากน้ำเริ่มทะลักท่วมสะพาน

น้ำลำเซบกไหลท่วม บริเวณสะพานบ้านท่าศิลา อ.ดอนมดแดง
https://www.facebook.com/UbonWanNi/videos/2379487128973034/?t=2

ขอบคุณข้อมูลจาก : อุบลวันนี้

เวลา 13.50 น. ร.ต.ท.ลิ บุญสูง หน.สายตรวจตำบลศรีสัชนาลัย ฯ รายงานว่า ให้ประชาชนระวังน้ำท่วม โดยกลุ่มเสี่ยงน้ำจะท่วม ม.1 – 2 ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

สถานการณ์น้ำ ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
สถานการณ์น้ำ ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
https://www.facebook.com/srisat.chanalai.3/videos/691286181338585/?t=0

รายงานล่าสุดจากกรมทางหลวง : สถานการณ์น้ำท่วม

กรมทางหลวงทำการสรุปเหตุการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุล ประจำวันที่ 3 กันยายน 2562 เวลา 12.00 โดยทางหลวงมีสภาวะน้ำท่วมพื้นที่ทั้งสิ้น 10 จังหวัด ได้แก่ น่าน, ยโสธร, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, พิจิตร, พิษณุโลก, เชียงใหม่, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ จำนวน 21 สายทาง (29 แห่ง) ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง มีรายละเอียด ดังนี้

จังหวัดน่าน

  • ทางหลวงหมายเลข 101 ตอน ปัว – ปางหก ช่วงกม.ที่ 459 พื้นที่ อ.ทุ่งช้าง น้ำกัดเซาะทางเบี่ยงขาดช่วงงานโครงการก่อสร้าง ใช้ทางเลี่ยงเส้นหมู่บ้านเวียงสองแทนได้ คาดว่าจะผ่านได้เวลา 22.00 น.
    จังหวัดยโสธร

จังหวัดยโสธร

  • ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เสลภูมิ – ยโสธร ช่วงกม.ที่152 – 155 พื้นที่ อ.เสลภูมิ ระดับน้ำสูง 40 – 60 ซม. รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทางเลี่ยง เลี้ยวขวาสามแยก ทช.รอ.2027 ถึง อ.อาจสามารถ เลี้ยวซ้าย ทล.2043 เลี้ยวซ้ายแยกโนนชัยศรีเข้า ทล.202 เพื่อไป จ.ยโสธร

จังหวัดอุบลราชธานี

  • ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน บ้านสวน – เขื่องใน ช่วงกม.ที่ 223 – 225 พื้นที่ อ.เขื่องใน น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 70 – 100 ซม. ทางเลี่ยงใช้ ทล.2406 เข้าบ้านกลางใหญ่ไปตัดกับ ทล.2382 เข้าเขื่องใน เพื่อไป จ.อุบลฯ
  • ทางหลวงหมายเลข 2050 ตอน อุบลราชธานี – ตระการพืชผล ช่วงกม.ที่31 อ.ตระการพืชผล คอสะพานโดนน้ำกัดเซาะ ทางเลี่ยงไปอำเภอตระการพืชผล ที่บริเวณแยกบ้านแต่ใหม่ ที่ กม.14 ไปตามเส้นทางหลวงชนบท หมายเลข 4041 เพื่อที่จะออกไปพื้นที่ตำบลกุศกร ทล.2134 ตอน ตระการฯ – โขงเจียม

จังหวัดอำนาจเจริญ

  • ทางหลวงหมายเลข 2210 ตอน ขมิ้น – น้ำปลีก ช่วงกม.ที่ 21 – 22 อ.หัวตะพาน น้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูง 80 ซม. ทางเลี่ยง จากแยกน้ำปลีก ใช้ ทล.202 ไปตัวเมืองอำเภออำนาจเจริญ เลี้ยวขวาเข้า ทล.212 ไปแยกบ้านหลักชัย เลี้ยวขวาเข้าหัวตะพาน ทล.2210

…………………………………………………………………

น้ำท่วมทางหลวง – ปิดการสัญจร -แนะทางเลี่ยง

  • ทาง สวท.อุบลราชธานี รายงานว่า นายสันติพงษ์ สมศรี นายอำเภอเขื่องใน เปิดเผยว่า วันนี้ 3ก.ย.2562 อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ได้ประกาศปิดเส้นทางจราจรถนนทางหลวงหมายเลข 23 หรือถนนแจ้งสนิท บริเวณบ้านกอก อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เนื่องจากน้ำจำนวนมากได้เอ่อท่วมพื้นผิวจราจรในระดับที่สูง อาจจะเกิดอันตรายต่อการสัญจร และเส้นทางดังกล่าว เป็นเส้นทางหลักจาก จ.อุบลราชธานี ไปยังจ.ยโสธร และจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จะเดินทางจากจ.อุบลราชธานี ไปจ.ยโสธร ขอให้ใช้เส้นทาง อุบลราชธานี – ค้อวัง – ยโสธร แทน หรือใช้เส้นทาง เขื่องใน – แยกสหธาตุ – บ้านส้มป่อย – บ้านชาติ – บ้านกลางใหญ่ เข้าสู่ถนนแจ้งสนิท ไปยังจังหวัดยโสธร

ทั้งนี้ ทางอำเภอเขื่องใน ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในทุกด้าน พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ปิดการสัญจร อุบลฯ – ยโสธร ถนนแจ้งสนิท 4 ช่องจราจร ทางหลวงแผ่นดิน สาย 23 บริเวณเทศบาลบ้านกอก อ.เขื่องใน
ขอบคุณข้อมูลจาก : วุฒินันท์ ,แจ้งข่าวชาวร้อยเอ็ด
  • ทางแขวงทางหลวงอุบลราชธานีที่ 1 ได้แจ้งน้ำท่วมทางหลวงหมายเลข 23 (แจ้งสนิท) ช่วง กม.223+500- กม.225+500 ทั้งฝั่งขาเข้ามาจาก จ.ยโสธร และฝั่งขาออกที่มาจาก จ.อุบลราชธานี

ซึ่งจุดดังกล่าวออกมาจาก อ.เขื่องใน ไปทาง จ.ยโสธร ประมาณ 15 กม. (บริเวณบ้านกอก) น้ำได้เริ่มเอ่อท่วมขึ้นเรื่อยๆ ระดับน้ำได้ท่วมสูงมากขึ้นจนรถไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่ได้ขอปิดเส้นทางไม่ให้รถผ่าน โดยจัดให้รถใช้เส้นทางเลี่ยง ตามแผนที่แผนผังที่แนบ

สั่งการศูนย์ ปภ. เขต และจังหวัดเสี่ยงภัยติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

  • ทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองเว้ ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ซึ่งพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้อย่างช้าๆ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่และฝนตกหนักบางแห่ง

โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในช่วงวันที่ 3 – 4 กันยายน 2562 ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงคลื่นสูง 2 – 3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

เพื่อให้การเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กอปภ.ก โดย ปภ. ได้กำชับให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย ประกอบด้วย

พื้นที่ติดตามผลกระทบจากฝนตกหนัก แยกเป็น ภาคเหนือ 15 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก พิจิตร อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง 7 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สมุทรสงคราม นครนายก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

พื้นที่ติดตามน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ประกอบด้วย ภาคเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ แพร่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ น่าน และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร และอุบลราชธานี

พื้นที่ติดตามน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม ประกอบด้วย ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิจิตร ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย พิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคใต้ 2 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา

พื้นที่ติดตามสถานการณ์คลื่นลมแรง แยกเป็น ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

นอกจากนี้ ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดมาตรการความปลอดภัยทางทะเล โดยเฉพาะการห้ามเดินเรือขนาดเล็ก รวมถึงให้ผู้ควบคุมเรือตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์ จัดเตรียมเครื่องมือประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน้ำให้พร้อมใช้งาน อีกทั้งกำชับสถานประกอบการในพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวห้ามประกอบกิจกรรมทางทะเลทุกประเภทในช่วงที่มีคลื่นลมแรง

ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย

  • กรมชลประทาน เปิดเผยว่า เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่ไหลจากตอนบนเพิ่มขึ้น จากอิทธิพลพายุ”โพดุล” จึงได้สั่งการ ให้สำนักงานชลประทานที่ 4 จังหวัดสุโขทัย ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง

บริเวณด้านหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย อ.เมือง จ.สุโขทัย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการช่วยเหลือพื้นที่อำเภอเมืองสุโขทัยหากได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งเตรียมเครื่องสูบน้ำ ขนาด 8 นิ้ว อีกจำนวน 4 เครื่อง ไว้สนับสนุนการช่วยเหลือ หากมีความจำเป็นหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน

ชป.เตรียมพร้อมรับมือปริมาณน้ำเพิ่ม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย
ชป.เตรียมพร้อมรับมือปริมาณน้ำเพิ่ม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย
ภาพน้ำท่วมบริเวณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ขอบตุณภาพจาก : Orawan Puy Kwanwong
ภาพน้ำท่วมบริเวณ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ขอบตุณภาพจาก : Orawan Puy Kwanwong

สถานการณ์ จ.น่าน

  • เมื่อเวลา 08.00 น. ทางหลวงหมายเลข 1081-0103 ตอน บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ ที่กม.121+250 – กม .121+275 ด้านซ้ายทาง พื้นที่ บ.ง้อมเปา ต.ขุนน่าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน เกิดเหตุฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ดิน ด้าน back slopeไหลปิดทับผิวทางจราจร การจราจรสามารถผ่านได้ 1 ช่องทาง

แขวงทางหลวงน่านที่ 2 โดยหมวดทางหลวงเฉลิมพระเกียรติ ได้เข้าดำเนินการติดตั้งป้ายเตือน และดำเนินการแก้ไขดินสไลด์เพื่อเปิดการจราจร โดยได้ดำเนินการเปิดการจราจร 2 ช่องจราจรได้เมื่อเวลา 15.00 น ขอให้ผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวขับรถด้วยความระมัดระวัง

ดินสไลด์ทับผิวถนน เส้นทาง บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ เวลานี้รถผ่านได้ 1 ช่องทาง
ดินสไลด์ทับผิวถนน เส้นทาง บ่อเกลือ-เฉลิมพระเกียรติ เวลานี้รถผ่านได้ 1 ช่องทาง

เวลา 07.00 น. เหตุการณ์ทางเบี่ยงสะพานขาด ทางหลวงหมายเลข 101 กม.459+141 พื้นที่บ้านเวียงสอง ต.ทุ่งช้าง อ.ทุ่งช้าง จ.น่าน ในพื้นที่โครงการก่อสร้าง สาย ทุ่งช้าง – เฉลิมพระเกียรติ เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้ น้ำป่าไหลกัดเซาะทางเบี่ยงชั่วคราว ในช่วงก่อสร้างสะพานขาด การจราจรไม่สามารถผ่านได้

ขณะนี้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงน่านที่ 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่โครงการก่อสร้างเข้าดำเนินการแก้ไขแล้วคาดว่าจะเปิดการจราจรได้ในช่วงเวลา 13.00 น. การจราจรสามารถใช้เส้นทางเลี่ยงได้ตามแผนที่ และได้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่สัญจรตลอดเส้นทางดังกล่าว

เหตุการณ์ทางเบี่ยงสะพานขาด จ.น่าน
เหตุการณ์ทางเบี่ยงสะพานขาด