นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา

‘บิ๊กตู่’ ถามกลับ อยากได้นายกฯแบบนี้หรือแบบเดิม

ที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาบุคลากรภาครัฐ “ยุทธศาสตร์ชาติ ภาคปฏิบัติ:ร่วมขยับขับเคลื่อนภาครัฐเพื่อประชาชน” หรือ For THAIS โดยในครั้งนี้ได้มีการแสดงผลงานของข้าราชการที่มีผลสัมฤทธิ์ระดับสูง และกลุ่มคุณภาพภาครัฐเป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า…

Home / NEWS / ‘บิ๊กตู่’ ถามกลับ อยากได้นายกฯแบบนี้หรือแบบเดิม

ประเด็นน่าสนใจ

  • นายกฯ ชี้แจงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล
  • พร้อมระบุ จะเอาผมแบบนี้หรือจะเอาผมแบบก่อน

ที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาบุคลากรภาครัฐ “ยุทธศาสตร์ชาติ ภาคปฏิบัติ:ร่วมขยับขับเคลื่อนภาครัฐเพื่อประชาชน” หรือ For THAIS โดยในครั้งนี้ได้มีการแสดงผลงานของข้าราชการที่มีผลสัมฤทธิ์ระดับสูง และกลุ่มคุณภาพภาครัฐเป็นต้น

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนยินดีที่ได้มาร่วมพิธีเปิดการสัมมนาบุคลากรภาครัฐ ยุทธศาสตร์ชาติ ภาคปฏิบัติ:ร่วมขยับขับเคลื่อนภาครัฐเพื่อประชาชน ทุกวันนี้ข้าราชการ สร้างความรู้ความเข้าใจและแนวคิดอย่างบูรณาการ ซึ่งถือเป็นหลักการสำคัญจึงจะสามารถเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน ซึ่งวิสัยทัศน์คือการคาดการณ์ว่าประเทศไทยในวันข้างหน้าจะต้องเป็นอย่างไร โดยคาดหวังว่าประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน

นายกรัฐมนตรียังเปรียบตนเสมือนผู้อำนวยการเพลง ที่ต้องควบคุมและบริหาร รัฐมนตรีไม่ดี ก็ว่านายกฯ “นายกรัฐมนตรีห่วยก็ว่านายกฯ สรุปว่าก็ด่านายกฯทั้งปี จึงจำเป็นต้องมีการเรียนการอบรมในเรื่องดังกล่าวขึ้นมาจะได้เข้าใจกัน เราเข้าใจในที่ประชุมนี้ไม่พอ ก็ให้คนข้างนอกเข้าใจเราด้วย”

ซึ่งความต้องการของประชาชนที่ต้องพูดกันตามสื่อนั้น ต้องดูว่าทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้และจะทำอย่างไรให้ประชาชนพอใจ นี่คือหลักฐานและสิ่งของการเป็นข้าราชการต้องทำตรงนี้ให้ได้จึงจะเกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งหากเล่นกันคนละเพลงก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แม้ผู้อำนวยการจะเป็นใครก็แล้วแต่ ทุกอย่างก็จะเหมือนเดิม ต้องขอทำความเข้าใจกัน ซึ่งตนพูดมาหลายครั้งแล้วข้าราชการมีระดับบน กลาง และล่าง ในท้องถิ่นซึ่งมีความจำเป็นในตอนนี้ ส่วนวันหน้ามีเลือกตั้งไม่เลือกตั้งก็แล้วแต่ ต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกที ต้องดูเรื่องความพร้อมของกฎหมายในการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง

นายกฯ ชี้แจงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงรายการวิพากษ์วิจารณ์การบริหารจัดการน้ำในปัจจุบันว่า “ประชาชนเคยชินกับอดีต เรียกร้องให้แจกเงิน โดยไม่เข้าใจว่าระบบการเงินราชการ จะใช้อะไรได้บ้าง ทำไมไม่เอาเงินไปให้คนละ 5,000 บาท จะได้มีเงินใช้กินข้าว ดูแลลูก จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวจากคนกลุ่มไหนไม่รู้ ต้องทำอย่างนู้นอย่างนี้ แล้วยังมาว่านายกฯไม่ไปดูไม่เป็นตรวจน้ำท่วม ทำไมไปภาคใต้ ไม่ไปอีสาน ไม่ไปดูน้ำกับเขา เป็นการสร้างสังคมให้ขัดแย้งไปหมด “

ตนให้ทุกคนช่วยคิด สร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ได้ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลพยายามทำเต็มที่ ปริมาณน้ำฝนตกลงมาปริมาณมากก็รู้ แต่ก็จะด่าโดนด่าทุกเรื่อง ด่าได้ทุกวัน คนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร การสร้างการเรียนรู้แบบนี้ผิดไปหมด ทำให้การทำงานก็ยากไปด้วย พร้อมกับกล่าวตำหนิอดีตนักการเมืองว่า ตอนอยู่ไม่แก้ไขปัญหา ตอนนี้ฉลาด ทุกคนมาบอกสอนแนะนำการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่น้ำท่วมก็มาโทษรัฐบาล ด่าได้ทุกเรื่องทุกวัน ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่ว่าใครจะพูดอะไรผิดหรือถูก ไปฟ้องศาลตามกระบวนการยุติธรรม หากซึ่งต้องแก้ปัญหาที่จะทำให้คนไทย รู้เรื่องกฎหมาย กฎระเบียบ ตนขอฝากข้าราชการไว้ แต่ตนโดยไม่ได้ตำหนิใคร

อีกทั้งเวลาตนไปลงพื้นที่ไปไหนคนก็ขอแต่เงินแสดงว่าในระบบมีปัญหา ขอแต่งบขอ ขึ้นเงินเดือน ตนก็รู้สึกอึดอัดใจ ถ้าประเทศไทยรวยตนก็จะให้ แต่ยังเป็นอย่างนี้อยู่ทำอย่างไรจะสามารถอธิบายได้อย่างไร อย่าไปโทษหน่วยงานเขา เพราะงบประมาณขาดแคลน จึงต้องขอนายกแน่นอน ตนก็อยากให้แต่ไม่มีเงินจะให้เขา ซึ่งต้องให้เงินเป็นไปตามระบบ

Big Data ข้อมูลขนาดใหญ่เราไม่มีจริง…?

สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือ Big Data ข้อมูลขนาดใหญ่เราไม่มีจริงที่สามารถเช็คได้ในทันที ซึ่งขณะนี้ประเทศเรายังทำไม่สมบูรณ์ เพราะเครื่องมือ และงบประมาณไม่พอ แต่อีกส่วนหนึ่งคือประชาชนไม่ร่วมมือ สื่อการเรียนรู้กฎหมายพื้นฐาน ทำไมไม่ใส่ไปในช่วงรู้ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ แทนที่จะเอาเวลานั้นไปสร้างคนในชาติสร้างอุดมการณ์สร้างจิตสำนึก เพื่อจะวัดว่าผู้เรียนมีศักยภาพอะไรอย่างไรจะได้แนะนำ ไม่ใช่แนะนำตอนเข้ามหาวิทยาลัย

โดยไม่รู้ว่าที่เรียนมาทั้งหมดผู้เรียนชอบแบบใด ประเทศไทยวัดคนผ่านการออกข้อสอบ แต่ประเทศอื่นไม่ได้คัดกรองแบบนี้แต่คัดตั้งแต่เด็กขึ้นมา จะบอกประเทศโน้นประเทศนี้ทำได้ไม่ได้ไม่ใช่ แต่เราเริ่มแล้วหรือยังครูเข้าไปดูตรงนี้ ซึ่งทุกวันนี้ตนไม่เคยคิดว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีเลย แต่คิดว่าเป็นประชาชนคนหนึ่ง แล้วต้องการอะไร แต่ต้องดูว่ากฎกติกาทำได้แค่ไหน กฎหมายว่าอย่างไร

ซึ่งนายกรัฐมนตรียังระบุอีกว่า มีคนข้างนอกไม่รักประเทศตัวเอง จะทำอย่างไร คนเหล่านี้คิดถึงแต่ประโยชน์ส่วนตัว พูดจาที่ไม่ใช่ ต้องสร้างข้อมูลที่ถูกต้องออกไป

จะเอาผมแบบนี้หรือจะเอาผมแบบก่อน…?

ถึงเวลาแล้วที่ประเทศจะต้องเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เอากฎหมายมาขัดแย้งกันตลอดเวลา แล้วมาโจมตีกันในสภา ซึ่งตนเองมองว่าไม่ถูกต้อง และประเทศจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ใครจะเป็นผู้นำก็เดินไปไม่ได้ แม้จะกี่รัฐบาลก็เดินไปไม่ได้ ต่างประเทศก็อยากที่จะมาลงทุน ประเทศเราก็ยังตีกันอยู่ไม่กี่เรื่องน่ารำคาญ แต่อย่างไรก็ต้องทำต่ออยู่แล้ว ลองถามว่าหากตนไม่อยู่แล้วใครจะอยู่ พร้อมกับถามนายวิษณุเครืองามรองนายกรัฐมนตรีว่าใครจะอยู่ พร้อมขอให้กลับไปดูรัฐธรรมนูญให้ดี จะเอาผมแบบนี้หรือจะเอาผมแบบก่อน นายกรัฐมนตรีกล่าว