ซิโนฟาร์ม วัคซีนจีน

ผลวิจัยในมนุษย์ระยะ 3 ชี้วัคซีนจีน ‘มีฤทธิ์ต้านโควิด-19’

วารสารสมาคมการแพทย์แห่งอเมริกา เผยข้อมูลที่ได้จากการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 ว่าวัคซีนเชื้อตาย 2 ชนิดที่พัฒนาโดยซิโนฟาร์ม มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการต้านโรคโควิด-19

Home / NEWS / ผลวิจัยในมนุษย์ระยะ 3 ชี้วัคซีนจีน ‘มีฤทธิ์ต้านโควิด-19’

ประเด็นน่าสนใจ

  • วารสารสมาคมการแพทย์แห่งอเมริกา เผยข้อมูลที่ได้จากการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 ว่าวัคซีนเชื้อตาย 2 ชนิดที่พัฒนาโดยซิโนฟาร์ม มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการต้านโรคโควิด-19
  • การทดลองดังกล่าวซึ่งเป็นแบบสุ่ม ปกปิดข้อมูลทั้งสองทาง และใช้ยาหลอก ได้รับการออกแบบโดย สถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาอู่ฮั่น และ สถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาปักกิ่ง
  • การศึกษาดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมอายุ 18 ปีขึ้นไปจากต่างประเทศเข้าร่วมมากกว่า 40,000 คน โดยมีการฉีดวัคซีน 2 โดส

ปักกิ่ง, 27 พ.ค. (ซินหัว) — เร็ว ๆ นี้ การศึกษาชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารสมาคมการแพทย์แห่งอเมริกา เผยข้อมูลที่ได้จากการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 3 ว่าวัคซีนเชื้อตาย 2 ชนิดที่พัฒนาโดยซิโนฟาร์ม (Sinopharm) บริษัทเภสัชภัณฑ์รายใหญ่ของจีน มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

การทดลองดังกล่าวซึ่งเป็นแบบสุ่ม ปกปิดข้อมูลทั้งสองทาง และใช้ยาหลอก ได้รับการออกแบบโดย สถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาอู่ฮั่น และ สถาบันผลิตภัณฑ์ทางชีววิทยาปักกิ่ง ซึ่งล้วนเป็นหน่วยงานที่สังกัดกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติจีน (CNBG) ในเครือบริษัทซิโนฟาร์ม

กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติจีน แถลงในวันพฤหัสบดี (27 พ.ย.) ว่าผลข้างต้นถือเป็นการเผยแพร่ผลการศึกษาระยะที่ 3 ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตาย เป็นครั้งแรกของโลก

การศึกษาดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมอายุ 18 ปีขึ้นไปจากต่างประเทศเข้าร่วมมากกว่า 40,000 คน โดยมีการฉีดวัคซีน 2 โดส และเว้นระยะห่าง 21 วัน

ทั้งนี้ เชื้อไวรัสฯ ที่นำมาใช้ในการศึกษาและพัฒนาวัคซีนชนิดเชื้อตายเพาะเชื้อขึ้นจากผู้ป่วย 2 ราย ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจินอิ๋นถานสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในอู่ฮั่น และถูกนำมาใช้ผลิตวัคซีนข้างต้นแยกกัน

การศึกษาระบุว่า หลังรับวัคซีนได้ 14 วัน ร่างกายของผู้รับวัคซีนทั้งหมดล้วนมีการผลิตแอนติบอดีในระดับสูง และแอนติบอดีที่มีฤทธิ์ปราบเชื้อมีอัตราการสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ (seroconversion rate) ทะลุร้อยละ 99 ในกลุ่มผู้รับวัคซีนทั้งสองกลุ่ม ซึ่งบ่งชี้ว่าวัคซีนทั้งสองชนิดสามารถกระตุ้นร่างกายให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งได้


ที่มา : Xinhua