ประเด็นน่าสนใจ
- รัฐบาลเปิดรับบริจาค เพื่อระดมความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย
- ด้านเวฟ สาริน เกิดคำถาม ทำไมรัฐบาลมาขอบริจาค
จากกรณีที่ทางรัฐบาลเปิดเผยออกมาว่า จะมีการจัดรายการ “ร่วมใจ พี่น้องไทย ช่วยภัยน้ำท่วม” ในวันอังคารที่ 17 กันยายนเวลา 19.30 – 22.00 น. เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไปออกรายการดังกล่าวเพื่อรับบริจาคด้วยตัวเอง
การเปิดรับบริจาคของรัฐบาล ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อย เกิดคำถามและข้อสงสัยขึ้นมาว่า ทางรัฐบาลเองไม่มีเงินสำรองหรือ ถึงได้รับบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัย แม้กระทั่งคนดังในวงการบันเทิงอย่าง เวฟ สาริน ก็สงสัย ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์ภาพข้อความว่า
อันนี้น่าคิด ทำไมรัฐบาลต้องออกมาขอบริจาค คลังไม่มีเงินหรอ หรือแจกให้คนเที่ยวหมดแล้ว กูงง” พร้อมกับแคปชั่นว่า “แล้วภาษีกูไปไหนหมด
ก่อนนหน้านี้ทางด้าน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาชี้แจงถึงมาตรการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยไว้แล้วว่า
การบรรเทาความเดือดร้อนต้องมีลำดับขั้นตอน ตั้งแต่การช่วยเหลือเฉพาะหน้าเร่งด่วนเมื่อเกิดภัย เช่น การอพยพ การตั้งศูนย์พักพิง การลำเลียงอาหารและน้ำ การรักษาพยาบาล เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนได้รับความปลอดภัย จากนั้นเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะเร่งสำรวจและฟื้นฟูความเสียหายให้ทุกอย่างกลับสู่ปกติ ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพกายและใจของผู้ประสบภัยอย่างดีที่สุดด้วย
รัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบทางราชการ เช่น ค่าช่วยเหลือการดำรงชีพเบื้องต้น ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพที่เสียหาย ค่าชดเชยพื้นที่เกษตร ประมง ปศุสัตว์เสียหาย เป็นต้น หากมีผู้เสียชีวิตครอบครัวจะได้รับเงินตามหลักเกณฑ์รายละ 50,000 บาท
ส่วนกรณีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลังจะได้เงินช่วยเหลือประมาณ 200,000 บาทต่อหลัง เพื่อใช้เป็นค่าวัสดุก่อสร้าง และบ้านเรือนที่เสียหายบางส่วนจะช่วยเหลือตามความเป็นจริงตั้งแต่ 15,000 – 70,000 บาท
รวมทั้งยังมีการช่วยเหลือจากสถาบันเฉพาะกิจต่าง ๆ เช่น ธ.ก.ส. ธอส.ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติที่ผ่านมา จึงขอให้พี่น้องผู้ประสบภัยมั่นใจได้ว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน
สำหรับการบริหารจัดการเงินและสิ่งของที่ได้รับบริจาคนั้น จะดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ โดยทุกจังหวัดจะมีคณะกรรมการเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ เพื่อให้เงินบริจาคและการจัดส่งสิ่งของถึงมือผู้ประสบภัยอย่างถูกต้องทั่วถึง โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ทุกหน่วยทำงานอย่างรอบคอบรัดกุม และต้องไม่มีการร้องเรียนเรื่องทุจริตอย่างเด็ดขาด