ประเด็นน่าสนใจ
*หญิงตั้งครรภ์มักป่วยเป็นโรคเหงือกอักเสบ ฟังผุได้ง่าย
*หากขณะตั้งครรภ์ไม่ดูแลเรื่องสุขภาพช่องปากก็อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อลูกน้อยได้
*เชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคฟันผุยังสามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่ไปสู่ลูกได้
ประเด็นน่าสนใจ
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ปัญหาโรคเหงือกอักเสบพบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลให้เหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ที่รองรับฟันอ่อนแอ อาการแพ้ท้อง อาเจียนบ่อย และการดูแลอนามัยช่องปากที่ไม่ดี จะทำให้หญิงตั้งครรภ์เกิดโรคฟันผุได้
ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาสุขภาพช่องปากและสุขภาพทั่วไปต่อแม่และลูกที่จะเกิดมา หญิงตั้งครรภ์ที่มารับบริการฝากครรภ์ที่สถานบริการสาธารณสุข ควรได้รับการตรวจฟัน เพื่อทราบสภาวะช่องปากของตนเอง และรับความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพช่องปากของตนเองและลูก ฝึกทักษะการแปรงฟัน การใช้ไหมขัดฟันที่ถูกวิธี และหากพบว่ามีปัญหาโรคในช่องปากก็ควรได้รับการรักษาตามความจำเป็นในช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 4 – 6 หรือได้รับการส่งต่อเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ด้านทันตแพทย์หญิงปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ไม่ดูแลตนเอง โดยปล่อยให้มีปัญหาเหงือกอักเสบและฟันผุ จะส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับเหงือกและฟันของลูกได้ เนื่องจากฟันน้ำนมของลูกเริ่มสร้างตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์มารดาเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น
นอกจากนี้ เชื้อโรคที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคฟันผุยังสามารถถ่ายทอดเชื้อจากแม่ไปสู่ลูกได้ ดังนั้น หญิงตั้งครรภ์ควรหมั่นแปรงฟันด้วยการแปรงฟันตามสูตร 2-2-2 คือ แปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์นานครั้งละ 2 นาที วันละ 2 ครั้ง หลังแปรงฟันควรงดรับประทานอาหารหวาน และเครื่องดื่มรสหวานหลังแปรงฟัน 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟัน เพื่อลดโอกาสที่จะสูญเสียฟันเพิ่มขึ้น