แพทย์หญิงณัฐกานต์ ชื่นชม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนให้เป็นอุทาหรณ์ ถึงการใช้สารเคมีทางการเกษตร อย่างยาฆ่าหญ้า พาราควอต
โดยระบุว่า มีคนไข้หนุ่มรายหนึ่ง วัยกลางคน มารับตรวจด้วยอาการอ่อนเพลีย ตัวและตาเหลือง หายใจเหนื่อย พร้อมกับแผลที่ก้นเป็นวงกว้าง หลังจากได้ดูแผลที่ก้นคนไข้ ที่เป็นแผลสีแดงถลอกลึก ไม่มีหนอง เนื่องจากคนไข้บอกไปทำแผลที่อนามัยทุกวัน จึงถามถึงสาเหตุที่มาของแผลนี้
![](https://img-ha.mthcdn.com/klNm4c7ZtGXaZGKxh56Z_xfr1Vg=/news.mthai.com/app/uploads/2019/08/67759428_2800922326587977_5587200806496501760_n.jpg)
คนไข้เล่าว่า ได้ผสมยาฆ่าหญ้าใส่ถังฉีด แล้วแบกขึ้นหลัง ปรากฏว่าถังรั่ว น้ำยาจึงไหลมาโดนหลังและก้น พร้อมบอกว่าหลังจากโดน ก็อาบน้ำเรียบร้อย แต่ก็เกิดเป็นแผลลึก แล้วแสบทรมานมากๆ ใส่กางเกงไม่ได้เลย ต้องใส่โสร่งแทน
ซึ่งวันที่มาหาหมอ ก็เป็นมา 7 วันแล้ว จากนั้น คุณหมอจึงรีบทำเรื่องนอนโรงพยาบาลให้ เพราะนี่ไม่ใช่เคสแรก เนื่องจากเห็นอาการแบบนี้อยู่บ่อยๆ ก่อนหน้าก็มีชาวนาสองคนในความดูแล ต้องสังเวยชีวิตให้พาราควอต
แพทย์หญิงณัฐกานต์ ระบุด้วยว่า ผลเลือด ค่าตับ ปอด ต่างๆ ไม่มีที่ปกติเลย หลังจากนั้น จึงรีบต่อสายตรงถึงศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ต้องขอความช่วยเหลือคำปรึกษาต่างๆ แล้วยังบอก ใน 1 ปี ในโรงพยาบาลที่ทำอยู่ มีเคสที่ถูกสารพิษนี้กว่า 20 เคส รอดตาย 1-2 คนเท่านั้น แต่ก็ยังหวัง ให้เคสนี้รอด แม้มันจะริบหรี่
สุดท้าย หลังจากรักษาอย่างเต็มที่ คนไข้เคสนี้ก็ไม่รอด หลังจากเข้ารับการรักษา 8 วันที่โรงพยาบาล ระยะเวลาตั้งแต่โดนสารเคมีจนเสียชีวิต ราว 15 วันเท่านั้น เพราะมันเข้าไปในร่างกายเกิดออกซิเจนอนุมูลอิสระ ทำลายอวัยวะภายในไปหมดแล้ว ทั้งตับ ไต และปอด
ตั้งแต่เป็นหมอมา 15 ปี เห็นคนไข้ต้องตายด้วยพิษพาราควอตมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกชินชาเลย ได้แต่หวังว่าเมื่อไรสารเคมีรกโลกนี้ จะออกจากชีวิตคนไข้สักที เหตุการณ์ที่เจอบ่อยๆ คือ คนไข้ดื่มเข้าไป เพราะหยิบผิดนึกว่าเป็นน้ำ เพราะเทใส่ขวดน้ำดื่มไว้, คนไข้ซึมเศร้าเอามากินฆ่าตัวตาย, คนไข้ถูกทำร้ายจิตใจจากการกระทำบางอย่างคิดลาโลก, คนไข้ชาวนาถูกยาฆ่าหญ้ารดลงหลัง
จึงอยากวิงวอนให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาถึงการมีอยู่ของสารเคมีตัวนี้ มันอาจจะมีประโยชน์ในตัวมัน แต่อีกด้านหนึ่งมันเป็นเพชรฆาต ไม่ว่าจะให้ความรู้ความเข้าใจอย่างไร แต่พลาดไม่ได้ พลาด=ชีวิต
ที่มา เฟซบุ๊ก Nuttagarn Chuenchom