รางวัลนำจับ เด็กแว้น

ตร.เตรียมตั้งรางวัลนำจับ ‘เด็กแว้น’ เริ่มเดือนกันยายนนี้

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์…

Home / NEWS / ตร.เตรียมตั้งรางวัลนำจับ ‘เด็กแว้น’ เริ่มเดือนกันยายนนี้

ประเด็นน่าสนใจ

  • ตำรวจหารือเรื่องการตั้งรางวัลนำจับให้แก่ประชาชน ตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่น
  • หากพบว่ามีการแจ้งเท็จจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ศปก.ตร. ชั้น 20 อาคาร 1 ตร. พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่น พร้อมด้วย พลตำรวจโท มนตรี ยิ้มแย้ม จเรตำรวจ (สบ.8) , พลตำรวจตรี จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 (รอง ผบช.ภ.1) และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พลตำรวจโท ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมติดตามผลการป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทาง และมีการหารือเรื่องการตั้งรางวัลนำจับให้แก่ประชาชนที่ให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นการโทรแจ้งทางโทรศัพท์ที่สายด่วนหมายเลข 191 หรือ หมายเลข 1599 และช่องทางเพจ ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. โดยเป็นนโยบาย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะมอบเงินรางวัลตอบแทนให้ 3,000 บาท หากสามารถนำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีได้

ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเกณฑ์ให้รางวัล คาดว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะเริ่มดำเนินการได้ โดยเงินรางวัลดังกล่าวจะใช้เงินจากกองทุนสืบสวน และ จากกองทุนต่างๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากพบว่ามีการแจ้งเท็จจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีอัตราโทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้สำหรับประชาชนที่แจ้งข้อมูลให้ตำรวจนั้น ยืนยันว่าจะรักษาความลับเป็นอย่างดีไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้แจ้งหลุดออกไปเพื่อความปลอดภัย

ส่วนภาพรวมการดำเนินการในห้วงระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม และช่วงวันที่ 2 – 11 สิงหาคม พบว่ามีการดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ ผู้สนับสนุน ผู้ปกครอง และความผิดเกี่ยวกับท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน เปลี่ยนตัวรถและคดีอื่นๆ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เปิดเผยว่า ห้วงแรกสามารถจับกุมได้ 46,659 ราย ทั่วประเทศ ห้วงที่ 2 สามารถจับกุมได้ 12,082 ราย ทั่วประเทศ ซึ่งจากการเข้มงวดมาตรการ เห็นได้ว่ามีจำนวนผู้กระทำความผิดลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด

ข้อมูลจาก : สวพ.FM91