ประเด็นน่าสนใจ
- รุ่นน้อง ม.3 ถูกรุ่นพี่ ม.6 ทำร้ายเสียชีวิตแล้ว
- เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จ.นครปฐม
- การทำร้ายกันครั้งนี้ เป็นผลมาจากการทดสอบร่างกาย เพื่อส่งต่อเลสข้อมือกลุ่มให้กันรุ่นต่อรุ่น
จากเหตุการณ์สลดเหตุรุ่นพี่ ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ทำร้ายรุ่นน้อง ม.3 ด้วยการเตะไปที่หน้าอกหลายครั้ง เพื่อทำการทดสอบความแข็งแกร่งของร่างกาย ในพิธีสืบทอดเลสข้อมือซึ่งเป็นเลสที่มีสัญลักษณ์ของสถาบัน ที่ส่งต่อกันรุ่นต่อรุ่น
แต่รุ่นน้องคนดังกล่าวกลับทนไม่ไหว เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก เพราะออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองไม่ทัน แถมปอดช้ำ สมองบวม ก่อนเวลาต่อมาจะถูกหามส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยยื้อชีวิต โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้บาดเจ็บคือ น้องกร อายุ 15 ปี นั้น
วันนี้ (18 ก.ค. 2562) ได้มีรายงานแจ้งว่า ผู้บาดเจ็บจากการถูกทำร้ายดังกล่าวเสียชีวิตลงแล้ว แม้ว่าจะนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมานานเกือบ 4 สัปดาห์แล้วก็ตาม
โดยสาเหตุของการเสียชีวิตนั้นเป็นผลมาจากการได้รับได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงที่บริเวณหน้าอก จนสมองขาดออกซิเจน โดยญาติเผยว่า ก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะสิ้นลมทางทีมแพทย์ได้พยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยยื้อชีวิตอีกครั้ง แต่ไม่ทันการก่อนที่ผู้บาดเจ็บจะจากไปในที่สุด
ส่วนในเรื่องของคดีนั้นทาง พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ 3 คนได้เข้ามอบตัวแล้วก่อนหน้านี้ และขณะนี้ได้ส่งตัวไปยังสถานพินิจของจังหวัดเพื่อรอส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาทำร้ายร่างกายทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แก่ผู้ก่อเหตุทั้ง 3 เพิ่มด้วย หลังจากทราบข่าวว่าผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว
สำหรับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย เข้าข่ายความผิดฆ่าคนตาย แต่ถ้าการสอบสวนเห็นพ้องว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้มีเจตนาฆ่าก็จะมีความผิดตามประมวลกำหมายอาญามาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
ทั้งนี้จากเหตุที่เกิดขึ้น ทางพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ได้ออกมาเตือนแล้วว่า ให้กลุ่มรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบัน ที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรม ประเพณี กฎระเบียบของคณะ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด ให้หยุดพฤติกรรม
เพราะล้วนอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียและความเสียใจต่อญาติ ผู้ปกครองของผู้ที่ถูกกระทำ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้ที่กระทำความผิดได้ เพราะการกระทำลักษณะนี้ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
