ประเด็นน่าสนใจ
- รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส เผยไม่ระงับการใช้งานวัคซีนโควิด ของ แอสตราเซเนกา
- บางประเทศในยุโรปตัดสินใจหยุดใช้วัคซีนดังกล่าวชั่วคราว สืบเนื่องจากมีรายงานผู้รับวัคซีนเกิดภาวะเลือดแข็งตัว
- ฝรั่งเศสตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 3.99 ล้านราย เสียชีวิตรวม 89,830 ราย
ปารีส, 11 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) โอลิเวียร์ เวรอง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศส กล่าวว่าฝรั่งเศสจะไม่ระงับการใช้งานวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) หลังจากบางประเทศในยุโรปตัดสินใจหยุดใช้วัคซีนดังกล่าวชั่วคราว สืบเนื่องจากมีรายงานผู้รับวัคซีนเกิดภาวะเลือดแข็งตัว
“ทั้งยุโรป ฝรั่งเศส และเยอรมนี ไม่ได้มองว่าวัคซีนมีความเสี่ยงมากเกินไป” เวรองระบุ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลยาของฝรั่งเศส ซึ่งดำเนินงานสอดคล้องกับสหภาพยุโรป (EU) มองไม่เห็นเหตุผลระงับการฉีดวัคซีนดังกล่าวแต่อย่างใด
“วัคซีนของแอสตราเซเนกามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง” เวรองกล่าว “เรากำลังพิจารณารายงานกรณีผลข้างเคียงร้ายแรงอย่างเป็นระบบ เพื่อตรวจหาความเชื่อมโยงระหว่างการเสียชีวิตและวัคซีน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการ”
ก่อนหน้านี้หน่วยงานสาธารณสุขในเดนมาร์ก นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ สั่งระงับการใช้งานวัคซีนของแอสตาเซเนกา หลังจากมีรายงานผู้รับวัคซีนเกิดภาวะเลือดแข็งตัว
ฝรั่งเศสอนุญาตประชาชนอายุต่ำกว่า 75 ปีที่มีโรคร่วมสามารถรับวัคซีนของแอสตราเซเนกาเมื่อต้นเดือนมีนาคม หลังก่อนหน้านี้กำหนดไว้เฉพาะกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 65 ปี
ปัจจุบันฝรั่งเศสฉีดวัคซีนโควิด-19 โดสแรกให้ประชาชนราว 4.54 ล้านคนแล้ว และมีผู้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว 1.26 ล้านคน โดยเมื่อวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) มีผู้รับวัคซีนถึง 286,000 คน นับเป็นสถิติสูงสุดเป็น “ประวัติการณ์” ตั้งแต่ฝรั่งเศสเริ่มโครงการฉีดวัคซีนภายในประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2020
อย่างไรก็ดี เวรองเตือนว่า “สถานการณ์การระบาดยังตึงเครียดและน่าเป็นห่วง” โดยฝรั่งเศสตรวจพบผู้ป่วยใหม่เฉลี่ย 20,000 รายต่อวัน ขณะยอดผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวในหอผู้ป่วยหนักครองสัดส่วนร้อยละ 80 ของเตียงกู้ชีพในประเทศ
ขณะเดียวกันตัวชี้วัดด้านโรคโควิด-19 ในภูมิภาคปารีสนั้น “น่ากังวลอย่างยิ่ง” เนื่องจากมีผู้เข้ารักษาตัวในหอผู้ป่วยหนักทุก 12 นาที อีกทั้งมีรายงานยอดผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจในโรงพยาบาลของแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องซ์อยู่ที่ 1,080 ราย และอาจเพิ่มเป็น 1,500 รายภายในสิ้นเดือนมีนาคม
เวรองเสริมว่ารัฐบาลฝรั่งเศสจะดำเนิน “มาตรการจำเป็นทั้งหมด” เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาด หากโรคโควิด-19 ยังคงหมุนเวียนในระดับเดียวกับปัจจุบันต่อไป
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 27,166 รายในวันพฤหัสบดี (11 มี.ค.) ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 3.99 ล้านราย และผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 265 ราย ทำให้มีผู้ป่วยเสียชีวิตรวม 89,830 ราย
ที่มา : Xinhua