นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ เตรียมขึ้นเบิกความเป็นพยานยึดทรัพย์ ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบจีทูจี เป็นครั้งสุดท้าย ในวันพรุ่งนี้ ที่ศาลแพ่ง พร้อมแนะฝ่ายค้าน ตรวจสอบทุจริตเพื่อปกป้องประโยชน์ชาติจริงๆ ไม่ใช่อ้างแต่ประชาธิปไตย
ข้อความความที่แพทย์วรงค์ โพสต์มีดังนี้
พรุ่งนี้ (30ก.ค.62) น่าจะเป็นการขึ้นเบิกความครั้งสุดท้ายของผม เพื่อเป็นพยานที่ศาลแพ่ง ให้ฝ่ายโจทย์คือปปง. เพื่อยึดทรัพย์เสี่ยเปี๋ยงและพวก ในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบจีทูจี
คดีรับจำนำข้าวเป็นคดีที่ พวกเราตรวจสอบรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยผ่านระบบรัฐสภา ว่ามีการทุจริตโดยเอาชาวนามาบังหน้า แต่เอาข้าวเปลือกที่รับซื้อจากชาวนาราคาแพง มาขายเป็นข้าวสารให้พรรคพวกราคาถูก โดยอ้างว่ารัฐบาลจีนมาซื้อแบบจีทูจี แต่ถูกจับได้ นอกจากขายให้พรรคพวกราคาถูกแล้ว ข้าวสารไม่ได้ถูกส่งออกไปจีน แต่มาเวียนขายในประเทศราคาแพง
และเอาข้าวสารมาลักไก่ เวียนส่งเข้าโกดังรัฐบาล ประเทศชาติจึงเสียหายไปร่วมหกแสนล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนโครงการร่วม 940,000 ล้านบาท (ไม่นับรวมการนำข้าวเหลือง ไม่ได้มาตรฐานยัดใส้ส่งด้วยการล้อมกอง ยัดใส้นั่งร้าน
คดีเหล่านี้ อคส.และ อตก. เป็นโจทย์ฟ้องเองอีกประมาณพันกว่าคดี ส่วนการสวมสิทธิ์ชาวนา โกงความชื้น ตาชั่งและ สิ่งเจือปน ส่วนใหญ่จะยอมความกัน)
การตรวจสอบโครงการทุจริตที่ใช้เงินมากที่สุดของชาติ เริ่มตั้งแต่ 25 พฤศจิกายน 55 คดีอาญาถูกศาลฎีกานักการเมืองตัดสินแล้ว หลานคนเข้าคุก บางคนหนี ส่วนคดีแพ่งที่ยึดทรัพย์แยกเป็นหลายคดีมาก วันที่ 30 ก.ค.นี้น่าจะเป็นคดีสุดท้ายที่ผมต้องขึ้นเบิกความ รวมทั้งคดีอาญาและแพ่ง เราสู้มาเกือบ 7 ปี
อยากแนะนำฝ่ายค้าน ที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าท่านตรวจสอบ เพื่อปกป้องประโยชน์ชาติจริงๆ จนประชาชนเชื่อว่าท่านทำจริง ข้อมูลและหลักฐานการทุจริตต่างๆจะไหลมาหาท่านเอง ขอให้ท่านทำจริงๆ ไม่ใช่อ้างแต่ประชาธิปไตย จนประชาชนตั้งคำถามว่า โกงแล้วหนี ถูกศาลตัดสินแล้วไม่ยอมรับ แบบนี้คือประชาธิปไตยใช่หรือไม่