สถานการณ์การประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในหลายเมืองทั่วเมียนมา โดยจุดหลักยังคงเป็นในกรุงย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ ที่มีผู้ออกมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก
โดยเมื่อวานนี้ ที่ย่างกุ้ง จุดชุมนุมหลักยังคงเป็น 2 จุดเดิมคือ บริเวณใกล้กับเจดีย์ซูเล และ บริเวณแยกด้านหน้า Hledan City โดยการชุมนุมยังคงเป็นการรวมตัวกันออกมาเรียกร้องให้คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนชาวเมียนมา ไม่ยอมรับการทำรัฐประหาร รวมถึงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนางอองซาน ซูจี, ผู้นำทางการเมือง และผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมตัวไป ตั้งแต่ช่วงเช้า
ในเวลาต่อมา ก็มีตำรวจ และทหารเข้ามาในพื้นที่ก่อนที่จะมีการเข้าสลายการชุมนุม โดยมีการฉีดน้ำสลายกลุ่มผู้ชุมนุม ที่มาร่วมชุมนุมอยู่ ก่อนมีการจับกุมตัวผู้ชุมนุม และนักข่าวไปด้วย โดยมีนักข่าวชาวญี่ปุ่น จำนวน 1 รายถูกจับกุมตัวไปด้วย
บริเวณพื้นที่การชุมนุมบริเวณถนนอินเส่ง มีการใช้ระเบิดควันและยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อสลายการชุมนุมอีกด้วย
ในขณะที่มัณฑะเลย์ ก็มีการชุมนุมเรียกร้องฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำโดยกลุ่มวิศวกรในมัณฑะเลย์ แพทย์-พยาบาล รวมถึงจนท.รัฐอีกบางส่วน ได้ร่วมกันออกมาเดินขบวน ประท้วงรัฐบาลทหารเมียนมา
(PHOTO : မန္တလေး အင်ဂျင်နီယာများအဖွဲ့)
…
จนท.รัฐร่วมม็อบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ในช่วงเดือนก.พ. ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ ในเมียนมา ร่วมการประท้วงเพิ่มมาขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในขณะนี้คาดว่า มีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ภายใต้กระทรวงต่าง ๆ ร่วมการประท้วงแล้วมากกว่า 2 หมื่นคน โดยมีการนัดหยุดงาน ออกมาร่วมเดินขบวนประท้วง เช่นการหยุดให้บริการรถไฟ บริการด้านสาธารณสุขทั่วไป รวมถึงการศึกษา
ซึ่งทางรัฐบาลเมียนมาได้ออกจดหมายแจ้งเตือนถึงเจ้าหน้าที่ที่ประท้วงหยุดงาน ให้กลับมาทำงานตามปรกติ หากฝ่าฝืนจะมีโทษทางกฎหมาย ทำให้เจ้าหน้าที่หลายส่วนได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า จะกลับไปทำงานเมื่อรัฐบาลมีที่มาอย่างถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมายของเมียนมา
ในขณะที่แพทย์ – พยาบาลบางส่วนระบุว่า ถูกขู่เพิกถอนใบอนุญาต หากออกมาร่วมการประท้วง หรือ หยุดงานประท้วง แต่หลายคนก็ตัดสินใจพร้อมที่จะให้มีการเพิกถอนใบอนุญาต
…
นัดหยุดงานเริ่มกระทบหนักขึ้น
จากการประท้วงนัดหยุดงาน ทำให้สถานการณ์ในเมียนมาเริ่มประสบปัญหาหนักขึ้น เนื่องจากวานนี้ ( 26 ก.พ.) ถือเป็น Pay Day หรือวันเงินเดือนออกของเมียนมา แต่หลายผลกระทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินเดือนได้ เนื่องจากจนท.หยุดงาน, ธนาคารไม่สามารถให้บริการได้ตามปรกติ รวมถึง ATM หลายที่ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากไม่มีเงินในตู้ ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อการ นำเข้า-ส่งออกสินค้าของเมียนมา เนื่องจากการขนส่งหยุดให้บริการ – ไม่สามารถใช้การได้ ทำให้สินค้าบางส่วนยังคงติดค้างอยู่ตามด่านชายแดน หรือที่ท่า
…
ทูตเมียนมาประจำยูเอ็น ชูสามนิ้ว เรียกร้องประณาม รบ.ทหาร
ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ เกี่ยวกับประเด็นในการทำรัฐประหารในเมียนมา เมื่อวานนี้ ซึ่งมีตัวแทนจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย
โดยในการประชุมที่เกิดขึ้นได้มีการพูดถึงประเด็นในการทำรัฐประหาร การตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจากการจับกุมผู้ประท้วง ผู้นำทางการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ซึ่งในการประชุม มีนายจอ โม ตุน ผู้แทนถาวรของรัฐบาลเมียนมา ประจำสหประชาชาติ ได้กล่าวในที่ประชุมถึงประเด็นที่เกิดขึ้น ซึ่งได้ระบุว่า ตนเองนั้นมาในฐานะตัวแทนที่ได้รับการเลือกตั้งจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และไม่ได้เป็นตัวแทนของกองทัพเมียนมาที่ทำรัฐประหาร
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายสิบปี กองทัพเมียนมาได้กดขี่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีการที่รุนแรง มีการโจมตีชนกลุ่มน้อย กองทัพยังคงใช้ความรุนแรงในการโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีการยิง-สังหารผู้ประท้วงที่ออกมาเรียกร้องอย่างสันติ ใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมและละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของชาวเมียนมา
โดยนาย จอ โม ตุน ยังได้เรียกร้องต่อที่ประชุม ขอให้ชาติประชาคมโลก ช่วยกันปฏิบัติการอย่างแข็งกร้าว ต่อการยุติการทำรัฐประหารของกองทัพ หยุดกดขี่-ข่มเหงประชาชน คืนอำนาจสู่ประชาชน และนำประชาธิปไตยกลับคืนมา
- ออกแถลงการประนามการกระทำของกองทัพเมียนมาในการทำรัฐประหาร
- ไม่รับรองรัฐบาลทหารเมียนมา
- เรียกร้องให้มีเคารพผลการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
- งดให้ความร่วมมือใด ๆ กับรัฐบาลทหารเมียนมา
- ใช้มาตรการต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อหยุดยั้งไม่ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม
- สนับสนุนผู้แทน-สภา ที่มาจากการเลือกตั้ง
หลังจากนั้น ในช่วงท้ายของการนาย จอ โม ตุน ได้ขอประธานในที่ประชุมที่จะกล่าวเป็นภาษาเมียนมา เพื่อสื่อสารถึงชาวเมียนมา ทั้งที่อยู่ในประเทศและอยู่ในต่างประเทศ เนื่องจากมีชาวเมียนมาจำนวนมากติดตามจับตาการประชุมในครั้งนี้
และในระหว่างที่กำลังกล่าวเป็นภาษาเมียนมาในช่วงท้าย นายจอ โม ตุน ก็ได้ยกมือขึ้นชูสามนิ้วกลางด้วย เพื่อแสดงออกถึงการไม่ยอมรับการทำรัฐประหาร
