ประเด็นน่าสนใจ
- หัวหน้า คสช. ใช้ ม.44 ต่ออายุบอร์ด กสทช.
- หวังสานต่อทีวีดิจิตอล และผลักดันโทรคมนาคมในระบบ 5G
- คนที่อายุครบ 70ปียังทำงานต่อได้
- คำสั่งนี้ให้มีผลจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอื่น
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้มีการเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 7/2562 ให้มีการยืดอายุคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ บอร์ด กสทช. ชุดปัจจุบันออกไปอีก จนกว่า พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่
และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้วเสร็จเรียบร้อย และมีผลบังคับใช้ โดยคำสั่งนี้ควบควมไปถึงคระกรรมการชุดดังกล่าวที่มีอายุครบ 70 ปี ก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ แม้ว่ากฎหมายจะระบุว่าต้องพ้นจากตำแหน่งก็ตาม
หวังสานต่อเดินหน้าทีวีดิจิตอล และดันคลื่อนความถี่ 5G
ส่วนสาเหตุของการยืดอายุของบอร์ดบริการ กสทช. ดังกล่าว ก็เพื่อให้การดำเนินการช่วยเหลือทีวีดิจิทัล และการเตรียมการจัดสรรคลื่นความถี่ 700MHz เพื่อใช้ในกิจการโทรคมนาคม 5G เป็นไปอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
อนึ่ง คำสั่งของ คสช. ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่ออกมาบังคับใช้เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง บอร์ด กสทช. เพราะว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา คสช. ก็ได้มีคำสั่งคสช. ที่ 7/2561 ให้ระงับกระบวนการสรรหา และให้บอร์ดกสทช.ดำรงตำแหน่งต่อไป จนกว่าคสช.จะมีคำสั่งอย่างอื่นมาแล้ว
สำหรับบอร์ด กสทช. มีทั้งหมด 6 คน เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2554 ตามกฎหมายมีวาระ 6 ปี ประกอบไปด้วย
- พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร,
- พ.อ.นที ศุกลรัตน์,
- พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ,
- ร.ศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์,
- ผ.ช.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์
- นายแพทย์ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา
คำสั่งหัวหน้า คสช. 7/2562
เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาความต่อเนื่องของ กสทช.
ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเลิก และระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๑
กำหนดให้กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่ คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่จำเป็นไปพลางก่อนต่อไป
ตามที่กำหนดในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐โดยในระหว่างนั้น หากกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่ง
ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้กรรมการกิจการกระจำยเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้จนกว่าหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นในขณะเดียวกันก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการ
ให้ผู้ได้รับการสรรหาและคัดเลือกเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ ต่อการปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการให้มีการสรรหา และคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งดังกล่าวโดยเร็วต่อไปนั้น
ด้วยเหตุที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ซึ่งอยู่ในชั้นการพิจารณาของสำนักงาน คณะกรรมการกฤษฎีกา ในขณะที่มีความจำเป็นต้องมีความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และการสรรหากรรมการดังกล่าว ในระหว่างที่การปรับปรุงแก้ไขกฎหหมายยังไม่แล้วเสร็จ ก็เป็นเรื่องยุ่งยากและอาจเกิดความเสียหายได้
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงเห็นควรอำศัยอำนาจตามความในข้อ ๒ แห่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๖๑ เรื่อง การยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นดังต่อไปนี้๑.ให้ระงับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการรโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ไว้ก่อน
จนกว่าจะมีพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรร คลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
๒. ในกรณีที่กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ให้กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่พ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
จนกว่าจะมีพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติตามข้อ ๑ ใช้บังคับ
หรือจนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติใช้บังคับ หรือจนกว่านายกรัฐมนตรี โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น๓. ในกรณีที่กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่น นอกจากพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ตามข้อ ๒ ให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
ประกอบด้วย กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เท่าที่เหลืออยู่ และให้กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เท่าที่เหลืออยู่ ปฏิบัติหน้ำที่ต่อไปได้
๔. คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๒
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชำ
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ