เมื่อวันพุธ (13 ม.ค.) ฟาห์เรตติน โคกา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของตุรกี ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของซิโนวัค (Sinovac) โดสแรก พร้อมกับกลุ่มสมาชิกสภาที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ หลังจากตุรกีอนุมัติการใช้งานวัคซีนดังกล่าวในกรณีฉุกเฉิน
โคกาบอกกับสื่อมวลชนที่ร่วมถ่ายทอดสดการรับวัคซีนดังกล่าวว่าตุรกีจะเริ่มฉีดวัคซีนขนานใหญ่ทั่วประเทศในวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) โดยเริ่มจากกลุ่มแรงงานทางสาธารณสุข พร้อมเรียกร้องประชาชนทุกคนฉีดวัคซีนด้วยคำเปรียบเปรยว่า
“ตอนนี้เราได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว”
การฉีดวัคซีนแก่กลุ่มผู้นำอาวุโสของประเทศจะเป็นตัวอย่างแก่ประชาชน โดยโครงการฉีดวัคซีนดำเนินการด้วยความโปร่งใสและแต่ละคนจะได้รับวัคซีนตามชื่อพร้อมกับบาร์โคด ซึ่งโคกาชี้แจงว่าจะมีการแจ้งเตือนนัดหมายประชาชนผู้มีสิทธิรับวัคซีนตามแผนการจัดซื้อเมื่อถึงเวลา
ตุรกีเริ่มนัดหมายเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นกลุ่มแรก โดยองค์การยาและอุปกรณ์การแพทย์ตุรกี (TMMDA) ประกาศอนุมัติการใช้วัคซีนดังกล่าวของจีนหรือโคโรนาวัค (CoronaVac) ในกรณีฉุกเฉิน หลังจากเสร็จสิ้นการประเมินข้อมูลและทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ใช้เวลา 14 วัน
อนึ่ง กระทรวงฯ รายงาน (13 ม.ค.) การตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่ม 9,544 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยที่แสดงอาการ 971 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในประเทศอยู่ที่ 2,355,839 ราย และตรวจพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 173 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยเสียชีวิตรวมอยู่ที่ 23,325 ราย ส่วนยอดผู้ป่วยหายดีรวมอยู่ที่ 2,227,927 ราย หลังมีผู้ป่วยหายดีเพิ่ม 9,463 ราย
อัตราอาการปอดอักเสบในผู้ป่วยโรคโควิด-19 อยู่ที่ร้อยละ 4.5 และจำนวนผู้ป่วยอาการหนักของตุรกีอยู่ที่ 2,652 ราย โดยตุรกีดำเนินการตรวจโรคแล้ว 26,729,595 ครั้ง เมื่อนับถึงวันพุธ (13 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันที่มีการตรวจโรครวม 173,603 ครั้ง
วัคซีนโคโรนาวัคชุดแรก จำนวน 3 ล้านโดส ถูกขนส่งถึงกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2020 โดยก่อนหน้านี้ตุรกีเปิดเผยว่าผลวิเคราะห์ระหว่างการทดลองระยะที่ 3 ของวัคซีนตัวนี้แสดงประสิทธิภาพอยู่ที่ร้อยละ 91.25