หลวงปู่ศิลา สิริจันโท (พระราชวัชรธรรมโสภณ)
หลวงปู่ศิลา สิริจันโท (ศิลา สิริจนฺโท) หรือ พระราชวัชรธรรมโสภณ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธาตุหมื่นหิน ตำบล กุดปลาค้าว อำเภอ เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ พระเกจิดังภาคอีสาน เกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2488 นามเดิมว่า “ศิลา นิลจันทร์” บิดานามว่า แก่น นิลจันทร์ และมารดานามว่า น้อย นิลจันทร์ เกิดที่บ้านเบิด ตำบลเบิด อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ในช่วงนั้น ครอบครัวอพยพจากภัยแล้งมาพำนักที่บ้านส้อง ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ จากนั้น ในปี พ.ศ. 2494 เมื่ออายุได้ 6 ปี ได้ย้ายภูมิลำเนามาอยู่อาศัย ณ บ้านเกิดของมารดา ที่บ้านธาตุประทับ (ในปัจจุบัน คือ บ้านยางกระธาตุ) อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อปี พ.ศ. 2500 ขณะอายุ 12 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดธาตุประทับ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย บ้านธาตุประทับ อำเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด มีหลวงพ่อพิมพ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ติดตามพระอาจารย์ออกร่วมคณะธุดงค์ไปนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างเดินธุดงค์ มีโอกาสอุปัฏฐากพระมหาเถระฝ่ายอรัญวาสี คือ พระครูสีลขันธ์สังวรณ์ (อ่อนสี สุเมโธ) ที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นพระอาจารย์ในสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และได้รับคำสอนผญาธรรม (หรือ คำสอนอีสาน) จากพระธรรมราชานุวัตร (แก้ว กันโตภาโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม
เมื่ออายุย่าง 21 ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดบูรพาภิราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระสิริวุฒิเมธี (พุทธา สิริวุฑฺโฒ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายานามว่า “สิริจนฺโท” และได้ลาสิกขาเมื่อปี พ.ศ. 2521 ด้วยญาตินิมนต์ขอให้ลาสิกขาออกมาเป็นครูผู้ช่วยสอน ที่โรงเรียนธาตุประทับ และดูแลมารดารวมถึงญาติผู้ใหญ่ป่วยหนักเป็นเวลา 1 ปี จนเมื่อธุระครอบครัวเสร็จสิ้นจึงกลับมาอุปสมบทอีก 2 ครั้งและครั้งสุดท้ายก็ยาวนานมาจนจวบปัจจุบัน
หลวงปู่ศิลา ได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาว และอ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน และได้ศึกษาคัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุนจาก สปป.ลาว หลายฉบับศึกษาจนแตกฉานตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา
ที่มาตำนานปิดทองหลังพระ
ครั้งหนึ่งมีผู้ศรัทธาท่านหนึ่ง เห็นภาพหลวงปู่ศิลาในเฟซบุ๊ค ไม่รู้จักหลวงปู่มาก่อน คิดว่าหลวงปู่ท่านละสังขารแล้ว แต่เกิดปิติศรัทธาจึงบนบานกับภาพในเฟซนั้นในสิ่งที่ตนทุกข์ใจอยู่ว่า หากสำเร็จจะไปปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่ที่วัด ปรากฏว่า ทุกอย่างผ่านพ้นได้ตามคำบน จึงสุ่มเดามาที่วัด ซึ่งยุคนั้นที่วัดไม่มีรูปเหมือนหลวงปู่เลย มีแต่องค์จริงท่านนั่งอยู่บนกุฏิสองสามีภรรยาจึงขอโอกาสแก้บนโดยการปิดทอง หลวงปู่ก็เมตตา ปัจจุบันที่วัดพระธาตุหมื่นหินและธรรมอุทยาน จ. กาฬสินธุ์ จึงมีรูปหล่อหลวงปู่ไว้ให้ปิดทองนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คุณูปการกอปรกิจสาธารณประโยชน์ต่อแผ่นดิน
ด้านพุทธาอาคม สร้างขวัญกำลังใจ
หลวงปู่ศิลาแตกฉานในมูลกิจจายน์ ประกอบกับสรรพวิชาจนเป็นที่กล่าวขานถึงในยุคนั้น เหตุการณ์ที่วัดสันติวิหาร ทำให้หลวงปู่ศิลา สิริจันโท เป็นที่นับถือด้านการบำรุงขวัญกำลังใจแก่ศิษยานุศิษย์คือ เรื่องตะกรุดคอหมา (ตะกรุดปลากระป๋อง) เนื่องด้วยในยุคนั้น ระบบความคิดของลัทธิคอมมิวนิสต์ ระบาดหนัก เครี่องรางของขลังจึงเป็นสิ่งสำคัญสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้คนในยามหวาดกลัว
ด้านสาธารณสงเคราะห์
หลวงปู่ศิลา สิริจันโท ได้เพียรสร้างสาธารณประโยชน์ตามอัตภาพตลอดมา ได้สงเคราะห์อุปกรณ์และสถานที่ทางการแพทย์หลายแห่ง และสงเคราะห์สบทบทุนทางศาสนา สงเคราะห์ผู้ยากไร้ไม่เลือกชนชั้นวรรณะอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น สร้างเสนาสนะ สร้างพระ สร้างอุโบสถ สร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียนผู้สูงอายุ มอบเงินสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม มอบรถกู้ชีพ-กู้ภัย มอบเงินซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ อันล้วนแต่เป็นประโยชน์เพื่อสาธารณกุศลทั้งสิ้น
และด้วยพุทธาคม วัตรปฎิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และเรื่องญาณหยั่งรู้ที่ท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังมาจนถึงตอนนี้
ภาพโดย ธนโชติ ธนวิกรานต์
เนื้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
พระพรหมวชิรคุณ (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล) ละสังขารแล้ว สิริอายุ ๘๙ ปี
อานิสงส์ จากการทำบุญ แต่ละแบบต่างกัน! รู้ไว้จะได้ทำบุญเสริมดวงกันได้ถูกจุด
40 แบบ วิธีทำบุญให้ได้รับอานิสงส์ผลบุญตามที่ต้องการ