เคยรู้สึกแปลกใจไหมว่าทำไมตัวเราในกระจกกับนอกกระจกถึงดูแตกต่างกัน มันเป็นความรู้สึกที่คิดไปเองหรือไม่ แน่นอนไม่ใช่คุณคนเดียวที่คิดแบบนี้ และวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายเรื่องดังกล่าวได้
1.กระจกสะท้อนภาพที่กลับด้านของเรา
สิ่งที่เราเห็นในกระจกไม่ใช่ความจริง! สิ่งที่สะท้อนในกระจกคือเวอร์ชั่นของคุณที่กลับด้านจากความเป็นจริง และเมื่อเราส่องกระจกทุกวัน เราจะเคยชินกับด้านที่กลับข้างของเราจนมันมีผลที่ทำให้เราเคยชิน
2.การควบคุมเมื่อแรกเห็น
เมื่อเราส่องกระจก เราจะควบคุมท่าทางได้ในทันทีและทำได้อย่างเต็มที่ ถ้าเราไม่ชอบมุมที่ปรากฎในกระจก เราสามารถเปลี่ยนมุม เพื่อให้เราดูดีได้จากภาพที่เห็นจนทำให้เราพึงพอใจในภาพสะท้อนที่ปรากฎ แต่เมื่อถ่ายภาพเราจะไม่สามารถเห็นมันได้จนกว่าจะถ่ายเสร็จไงล่ะ ความเป๊ะมันต่างกันตรงนี้!
3.การจัดแสง
สมองของเรามักทำงานเพื่อตอบสนองกับแสงโดยที่เราไม่ได้คิดว่ามันมีความแตกต่างของแสงเมื่อเราอยู่หน้ากระจก นั้นเพราะสมองของเราแสดงภาพที่เห็นโดยอัตโนมัติ โดยการปรับสายตาให้เข้ากับภาพที่เห็น ซึ่งแตกต่างจากกล้องถ่ายภาพที่ไม่ได้ทำงานเช่นนั้น
4.ใบหน้าของเราไม่สมมาตร
ไม่มีใครที่มีใบหน้าที่ได้สัดส่วนสมมาตรสมบูรณ์แบบ ถ้าไม่เชื่อลองผลิกหน้าครึ่งหนึ่งของคุณมาทับซ้อนกันดู มันจะแสดงความแตกต่างออกมาอย่างชัดเจน เราคุ้นเคยกับหน้าของตัวเองในมุมไม่กี่มุมเท่านั้น และเรามักคิดว่าหน้าของเราทั้งสองส่วนเหมือนกัน ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้เราดูเป็นคนละคนเมื่อถ่ายภาพ
5.สิ่งรอบตัวทำให้เรารู้สึกกดดัน
นักวิจัยอธิบายเรื่องดังกล่าวว่า เรามักมองในกระจกเมื่ออยู่ที่บ้านหรือในสถานที่ปลอดภัยจริงมั้ย แต่สำหรับการถ่ายภาพบางครั้ง เราอาจจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย จจึงรู้สึกเครียดหรืออึดอัดในการโพสต์บ้าง ทำให้รูปที่ออกมาไม่เหมือนกับตัวเองเวลาส่องกระจกนั่นเอง
6.เราเห็นรายละเอียดส่วนหนึ่งในกระจกเท่านั้น
กระจกเพียงแสดงบางส่วนของตัวเรา เช่น เราทาลิปสติกเราก็จะมองไปที่ปากเท่านั้น เราสนใจแค่ส่วนที่สำคัญเช่นตา จมูกหรือทรงผม และเราไม่ได้มองภาพรวมที่เกิดขึ้นในกระจก บวกกับลึกๆ พื้นฐานคนเราก็ชอบคิดไปเองว่าตัวเองดูดีกว่าสิ่งที่พวกเขาเป็น เราจึงรู้สึกแฺฮปปี้กับรูปร่างหน้าตาในกระจกของตัวเองยังไงล่ะ
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team
ที่มา brightside.me