ใครว่าเป็นแฟนกันกันต้องบอกกันทุกเรื่อง ความจริงแล้วอาจจะไม่ต้องถึงขั้นนั้นก็ได้ เช่น 10 เรื่องนี้ ถ้ายังกิ๊กๆ หรือเป็นแฟนกันอยู่ เก็บไว้เป็น”ความลับ”กับตัวเองดีกว่า อย่าแพล่มบบอกเขาไปเลย จะนกเอาได้นะจ๊ะ
1.ชู้รัก หักห้ามใจไม่ไหว
ถ้าบอกคือ ตาย!!! ถึงจะเป็นความพลั้งเผลอ ห้ามใจไม่ไหว แค่ครั้งเดียวนะจ๊ะที่รัก ถ้าไม่อยากให้ความรักพังลงอย่าบอกจะดีกว่า โดยเฉพาะตอนเป็นแฟนกัน เพราะถ้าเราบอกไป มีสิทธิ์สูงมากๆ ว่าอาจจะจบไม่สวยแน่นอน บางเรื่องต้องรอเวลา หรือแม้แต่กิ๊กเก่าอยู่ดีๆ ทักมา ชั่งใจหน่อยว่าแฟนเราเป็นคนแบบไหน รับได้ไหมถ้าจะเล่าให้ฟัง
2.เงินเดือนมี บัตรเครดิตมี หนี้ก็มีค่ะ
ถ้ายังไม่แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่ใช่ และจะอยู่แต่งงานกันต่อไป โดยเฉพาะถ้ายังไม่ได้ใช้กระเป๋าเดียวกัน เราจะให้พ่อแม่เดือนละกี่บาท จะช้อปปิ้งเดือนละกี่บาท ไม่ต้องคอยรายงานเขาหรอก แต่ถ้าแต่งงานกันแล้ว อาจจะต้องคุยกันนิดนึง เพราะเราอาจต้องใช้กระเป๋าเดียวกัน เธอให้พ่อแม่เท่าไหร่ ฉันให้พ่อแม่เท่าไหร่ คู่รักถ้าจะให้ดีคุยกันเรื่องเงินให้เสร็จสรรพ อย่าให้เป็นปัญหาทีหลัง ต่างคนต่างต้องรู้ว่าตัวเองมีลิมิตเท่าไหร่ ส่วนใครที่ช้อปแล้วหนี้บาน ถ้าเคลียร์ไหว ก็เคลียร์ด้วยตัวเอง แต่ถ้าไม่ไหว หาทางแก้ด้วยกันดีที่สุด
3.เรื่องอดีตแย่ๆ ของตัวเอง
ถ้าเป็นเรื่องตลกๆ อย่างตอนเด็กๆ เราฉี่รดที่นอนที่โรงเรียนตลอดเลย เล่นอะไรสนุกๆ แบบเด็กๆ ยังพอทน อาจจะช่วยเพิ่มความน่ารักน่าเอ็นดูขึ้นมาได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องอย่างตอนมัธยมเราเคยแย่งผู้ชายกับเพื่อน ทะเลาะกันใหญ่โต เคยทำอะไรผิดกฎหมายมาก่อน อันนี้ไม่ควรพูด อยู่นิ่งๆ ให้ความลับนี้อยู่กับเราไปตลอด พูดไปก็ไม่น่ารักหรอก โกหกแฟน บ้างก็ได้
4.Sex Partners
ถ้าเขาไม่ถาม ก็ไม่จำเป็นอย่างแรงที่จะต้องพูดถึงคนรักเก่า อย่าโพล่งขึ้นมาว่า เราเคยมีแฟนมาแล้ว 1 2 3 4 5 คน โดยเฉพาะเรื่องการผ่านผู้ชาย เคยมีเซ็กซ์กับแฟนคนก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้ชายอาจเป็นคนหัวสมัยใหม่ ไม่ซีกับเรื่องเล็กๆ พวกนี้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสาธยายว่าเราเก่งเรื่องบนเตียงขนาดไหน
5.ปัญหาในบ้าน ให้อยู่แค่ในบ้าน
เรื่องนี้รอให้เขาเข้ามาเป็นครอบครัวเดียวกับเราก่อน เขาจะได้สัมผัสความจริงด้วยตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องในบ้านที่อาจทำให้คนในบ้านเสียหน้า อย่างพ่อทะเลาะตบตีกับแม่ หรือคนในบ้านนอกใจ เรื่องนี้ไม่ต้องบอก ดีไม่ดี เขาจะมองว่าครอบครัวเรามีปัญหา ไม่น่าอยู่ด้วย หรือดูถูกคนในครอบครัวเราไปอีก
6.ที่รักจ๋า เราแอบไปดูหนังมาก่อนแล้ว
มีงอนได้เลยนะเรื่องนี้ เรื่องไปดูหนังไม่ว่า แต่ทำไมต้องเป็นหนังที่เราสัญญาว่าจะดูด้วยกันสองคนล่ะ อารมณ์แบบคนไม่เคยดูกับที่คนเคยดู พอไปด้วยกันก็ไม่สนุกแล้ว เพราะอีกคนรู้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง ไม่เร้าใจเลย ถ้ารับปากแล้วว่าจะดูด้วยกันก็ต้องดูด้วยกัน แต่ถ้าอีกฝ่ายอดใจไม่ไหว เงียบไว้ค่ะ เก็บเป็นความลับ แล้วไปดูในโรงอีกรอบ เพื่อความรักของเรา
7.ไปไหนมา แฮงค์เอาท์กับใคร
ทุกคนก็ต้องการเวลาส่วนตัวกันทั้งนั้น และถือเป็นการป้องกันตัวไปในตัว คือถ้าเราบอกตลอด รายงานสถานการณ์ตลอด แล้วอยู่มาวันนึง เราเกิดรู้สึกไม่จำเป็นต้องบอกขึ้นมา หรือไม่ได้บอกเขาเหมือนทุกที อีกฝ่ายอาจคิดว่าเราเปลี่ยนไปก็ได้ ทางที่ดี ไม่มีอะไรมาก แค่ไปเที่ยวธรรมดา บอกพอเป็นพิธีว่าออกมาเที่ยวก็ได้ ไม่ต้องเจาะจง
8.เล่าเซ็กซ์พิสดารของตัวเอง
ให้บทบาทมิสเตอร์เกรย์กับอนาสเตเชียอยู่แค่ในจอพอ ประสบการณ์เซ็กซ์เข้าหน้าเข้าหลังของแฟนเก่าเก็บไว้กับตัวพอ ถ้าเราเล่าให้เขาฟัง มีหลายทางที่เขาจะทำ คือ อาจจะเกร็ง คิดว่าเซ็กซ์ที่เราชอบเป็นแบบพิสดาร ฝืนตัวเอง จนเรื่องบนเตียงพัง
9.เรื่องน่าอายในวงเหล้า
อาจจะคิดว่าขำๆ หน่า ก็คนมันเมา ทำอะไรลงไปไม่รู้ตัว ไปนัวเนียกับผู้ชายคนอื่น ถึงจะบอกว่าเพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเลยขาดสติ เล่าให้ตลกนะไม่ได้เล่าให้เครียด แต่ใครจะชอบให้แฟนตัวเองไปเมาเรี่ยราดล่ะจริงไหม เก็บเรื่องตลกน่าอายไว้เป็นแค่เรื่องตลกในวงเหล้าก็พอ
10.ฉันไม่ชอบครอบครัวเธอเอาซะเลย
เรื่องใหญ่เลยจ้าา ไปเที่ยวบ้านเขาหรือไปสวัสดีแม่แฟนครั้งแรก แต่เราดันไม่ชอบนิสัยบางอย่างของแม่แฟน แม่สปอยลูกเกิน แม่ขี้บ่น แม่ชอบหักหน้าเรา บลาๆ เรื่องนี้อาจจะปรึกษาแฟนได้ แต่อย่าเพิ่งพูดตรงๆ ว่าฉันไม่โอเคเลยที่แม่เธอเป็นแบบนี้ ตั้งสติก่อนจ่ะ ครอบครัวใคร ใครก็รัก ลองมองตัวเองด้วยว่าเราผิดตรงไหนรึเปล่า แล้วปรับตัว ถ้าปรับไม่ไหว แม่แฟนไม่โอเคอย่างแรง ต้องกลับมาคิดแล้วว่า คบต่อจะดีรึเปล่า ปัญหาแม่สามีและลูกสะใภ้ ในอนาคตเราจะรับมือไหวมั้ย
ควรใช้อะไรเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจว่าเข้าสู่ประตูวิวาห์ ? แล้วหลังแต่งงานแล้วควรปรับตัวอย่างไรบ้าง
เรียบเรียงโดย Women Mthai Team
