จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อระบายความเครียด กลายมาเป็นตัวเองในรูปร่างใหม่ เธอใช้ระยะเวลาปีครึ่งสร้างกล้ามเนื้อจนสามารถลงประกวดได้ อะไรทำให้เธอหลงใหลการออกกำลังกายได้ขนาดนี้ มาอ่านคำสัมภาษณ์กันค่ะ
ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจเริ่มแข่ง จูนเป็นคนที่ไม่ออกกำลังกายเลยค่ะ เป็นคนชอบอยู่เฉยๆ ด้วยความคิดที่ว่าตัวเองผอมอยู่แล้ว ไม่กินข้าวนิดเดียวก็น้ำหนักลดแล้ว ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายก็ไม่อ้วน และไลฟ์สไตล์ก็ทั่วๆไป
จนมีโอกาสได้เป็นแอร์โฮสเตส จึงทำให้ทำงานไม่เป็นเวลา บินลงมาก็พักผ่อนอยู่บ้านอย่างเดียว แล้วก็เปลี่ยนมาทำงานบริษัททั่วไป ตอนนั้นเกิดความเครียดจากแรงกดดันต่างๆ เลยมานั่งคิดว่าอยากหาทางออกให้กับตัวเองที่จะระบายความเครียดออกไป ก็เลยเริ่มออกกำลังกาย ด้วยการเข้าคลาสออกกำลังกายแบบกลุ่มค่ะ
ทำไมเป็นผู้หญิงต้องมีกล้าม
เพื่อนที่เล่นฟิตเนสด้วยกัน ก็เลยชวนมาออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง แล้วถามว่าสนใจประกวดไหม เพราะกล้ามเนื้อดูพัฒนาเร็วมากๆ ตอนแรกก็ไม่สนใจ แล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ แต่ไปๆ มาๆ ก็นึกสนุก อยากลองดู ก็เลยตัดสินใจจะแข่งค่ะ
คนรอบข้างจะตกใจ แล้วก็ทักกันมาทุกคนถึงความเปลี่ยนแปลงของหุ่น บางคนก็บอกว่าสวยดี บางคนก็บอกว่าน่ากลัว โดยเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่บ้าน ที่ตอนแรกจะไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นผู้หญิงต้องมีกล้าม ทำไมต้องใส่ชุดน้อยชิ้นเพื่อประกวด แต่ปัจจุบันทุกคนก็เข้าใจมากขึ้น ว่าสิ่งที่เราทำคือการเล่นกีฬา และเป็นความชอบของเราที่ทำแล้วมีความสุขค่ะ
อยากฝากสาวๆทุกคนที่เริ่มออกกำลังกายนะคะ ว่าไม่ต้องกลัวกล้ามใหญ่จริงๆ เพราะกว่าจะกล้ามใหญ่ได้ต้องใช้ความพยายาม วินัยของการเล่น การกินสูงมากๆ แค่เริ่มออกกำลังกายเพื่อทำให้สุขภาพดี เริ่มสุขภาพที่ดีจากภายใน แล้วความสวยอย่างอื่นจะตามมาอย่างแน่นอน และถ้าให้ดีให้ลองสังเกตร่างกายของเรา ศึกษาว่าร่างกายเราควรได้โภชนาการมากน้อยแค่ไหน รับรองค่ะว่าผลลัพธ์ที่ได้ จะทำให้คุณแปลกใจและหลงรักการออกกำลังกายแบบจูนแน่นอนค่ะ
ขอบคุณผู้หญิงสร้างแรงบันดาลใจ
ชฎาทิพย์ จันทรัตน์ อายุ 28 ปี
นักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย
1st หนุ่มกายงาม สาวกล้ามสวย 2018
1st TMPC 2019
1st Mr. Thailand 2019
FB : June Chadathip
IG : junechadathip
บทความนี้ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ได้บนเว็บไซต์ MThai เท่านั้น
คลิป >> เมจิ อโณมา แชร์ความรู้ ออกกำลังกายเยอะ ไม่ได้แปลว่าจะมีกล้าม
