เป็นโสด ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอไปหรอก เช่นเดียวกันกับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีสองด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ วันก่อนพี่สาวในออฟฟิศยังเอ่ยปากทักเพื่อนร่วมงานของฉันเลยว่า แกโสดน่ะดีแล้ว อย่ามีแฟน มีผัวเลย เพราะชีวิตจะยุ่งยากลำบากกาย ลำบากใจไปอีกนาน ฟังแล้วก็ยิ่งรู้สึกหวงความโสดของตัวเองขึ้นมาทันที ยิ่งไปเจองานวิจัยของ Eric Klinenberg นักสังคมวิทยาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เกี่ยวกับ 7 ข้อดีข้องการเป็นโสด ที่ทำให้คนไม่มีคู่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าคนมีคู่ ก็พบว่า ความเป็นโสดนี่มันดี๊ดีจริงๆ นะ ถ้าไม่เชื่อตามไปดูกันเลยดีกว่า…
1.คนโสดเข้าสังคมมากกว่าคนมีคู่
จากการศึกษาของสถาบันวิจัย National Bureau of Economic Research ได้เปรียบเทียบชาวอเมริกันระหว่างคนที่แต่งงานแล้วกับคนที่ยังโสด โดยผลวิจัยบอกว่าคนที่เป็นโสด จะได้รับการติดต่อและการสนับสนุนจากครอบครัวมากกว่าคนที่แต่งงานแล้ว ส่งเสริมให้พวกเขาเข้าสังคมกับเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างมากกว่า
2.คนโสดมีอิสระมากกว่า
Eric Klinenberg เชื่อว่า ในยุคที่ดิจิทัลมีเดียต่างๆ กำลังเติบโต การเป็นโสดนั้นถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน เพราะช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่คนเดียวจะช่วยให้พวกเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริง และพบว่าอะไรที่ทำให้ชีวิตของพวกเขามีความหมาย แถมยังช่วยกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนมากกว่าคนมีคู่ด้วย
3.คนโสดหาเงินได้มากกว่า
จากการสำรวจพบว่า ผู้หญิงโสดมีโอกาสที่จะใช้เงินมากกว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วราวๆ 1 ล้านดอลลาร์ (35 ล้านบาท) โดยแบ่งง่ายๆ เป็นเงินเพื่อดูแลสุขภาพ 7.9% ใช้เงินเพื่อซื้อข้าวของเข้าบ้าน 39.8% ในขณะที่สาวที่แต่งงานแล้วใช้เงินเพื่อดูแลสุขภาพ 6.9% และซื้อของเข้าบ้านเพียง 23.9% ซึ่งน้อยกว่าคนโสด
4.คนโสดเป็นหนี้น้อยกว่า
การแต่งงานกับใครสักคนทำให้คุณต้องมีความรับผิดชอบด้านการเงินมากขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน เช่น การลงทุนสร้างฐานะให้กับครอบครัว รวมไปถึงการมีลูกสักคน(หรืออาจจะมากกว่านั้น) นั่นทำให้คนโสดมีรายจ่ายหรือหนี้น้อยกว่าคนที่แต่งงานนั่นเอง
5.การเป็นโสดไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับผู้ชายแต่ดีสำหรับผู้หญิง
จากงานศึกษาชิ้นล่าสุดของ W. Bradford Wilcox แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย และศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ Robert Lerman ของมหาวิทยาลัยอเมริกา พบว่าผู้ชายโสดที่มีอายุประมาณ 28-30 ปี มีรายได้ต่อปีน้อยกว่าคู่รักของพวกเขาราวๆ 15,900 เหรียญดอลลาร์ (566,000 บาท) และยิ่งเป็นผู้ชายที่มีอายุ 44 – 46 ปี ก็ยิ่งมีรายได้ต่อปีน้อยกว่าคู่รักของพวกเขาเข้าไปอีกที่ 18,800 เหรียญดอลลาร์ หรือราวๆ 669,800 บาท
6.ผู้ชายโสดทำงานน้อยกว่าผู้ชายแต่งงานแล้ว ส่วนผู้หญิงโสดจะทำงานมากกว่าผู้หญิงแต่งงานแล้ว
จากการศึกษาพบว่าผู้ชายโสดที่มีอายุ 28 – 30 ปี จะทำงานน้อยกว่าผู้ชายที่แต่งงานประมาณ 441 ชั่วโมงต่อปี ส่วนผู้ชายโสดอายุราวๆ 44 – 46 ปี จะทำงานน้อยกว่าผู้ชายแต่งงานแล้ว 403 ชั่วโมง แต่กลับกัน หากเป็นหญิงโสดจะต้องทำงานมากกว่าผู้หญิงแต่งงานแล้วประมาณ 196 ชั่วโมงต่อปี ยิ่งเป็นผู้หญิงที่มีลูกแล้วยิ่งทำงานน้อยลงไปอีก
7.การเป็นโสดมีผลดีต่อสุุขภาพของคุณด้วย
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์พบว่า ผู้ชายและผู้หญิงโสดที่อายุประมาณ 18-64 ปี จะมีเวลาต่อสัปดาห์มากพอที่จะออกกำลังกายมากกว่าคนที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว แถมยังมีงานวิจัยที่สนับสนุนอีกด้วยว่า คนที่แต่งงานไปแล้วจะไม่ค่อยดูแลร่างกายของตัวเองและมีภาวะโรคอ้วนตามมา
ความโสดในวัย 30 อันตรายแค่ไหน ? อะไรคือสัญญาณว่า คานแน่นวล ? ฟังคำตอบจากเจ้าของเพจ หมอตุ๊ดกัน
ที่มา www.businessinsider.com
