วิธีแต่งหน้าแบบธรรมชาติ สวยไม่โบ๊ะ แต่ปกปิดเนียนกริบ สไตล์เซเลบ

แฟชั่น | April 7, 2019

วิธีแต่งหน้าแบบธรรมชาติ สวยไม่โบ๊ะ แต่ปกปิดได้เนียนกริบ ทำได้ไม่ยากถ้าหากคุณรู้จักหน้าตาของตัวเอง และไม่พยายามฝืนธรรมชาติที่มี โดยเทคนิคที่จะมาแนะนำสาวๆ ในครั้งนี้ สามารถนำไปปรับใช้กับการแต่งหน้าประจำวันของคุณได้ด้วย คราวนี้จะได้สวยไม่เกินเบอร์จนโดนเพื่อนๆ หรือหนุ่มๆ แซว ส่วนจะมีเทคนิคอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลย

วิธีแต่งหน้าแบบธรรมชาติ

1. อย่าฝืนธรรมชาติ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดถ้าหากว่าคุณต้องการที่จะแต่งหน้าในลุคนี้ เพราะถ้าหากคุณรู้ตัวว่าจริงๆ แล้ว คุณเป็นผู้หญิงที่มีผิวสีน้ำผึ้ง แต่พยายามจะมโนหรือคิดไปว่าเราเป็นสาวผิวขาว แล้วไปเลือกเมคอัพที่เหมาะกับคนผิวขาวเพราะคิดว่าเข้ากับตัวเองได้ นั่นเท่ากับว่าความธรรมชาติที่คุณต้องการจะหายไปด้วย ดังนั้นถ้าหากอยากที่จะแต่งหน้าแบบธรรมชาติก็ควรเลือกเมคอัพที่เหมาะกับผิวของเราจะดีที่สุด

เลือกรองพื้นโดยการทดลองป้ายเนื้อครีมลงบนผิวบริเวณกราม โดยสามารถเลือกเฉดที่สว่างกว่าผิวสัก 1เบอร์ได้ ถ้าหากต้องการให้หน้าดูสว่าง แต่ไม่ควรให้มากกว่านั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นหน้าลอยเพราะหน้าขาวกว่าคอ ซึ่งข้อดีในการเลือกรองพื้นที่มีเฉดพอดีกับสีผิวคือ คุณสามารถเพิ่มระดับการปกปิดด้วยการเติมรองพื้นเข้าไปทีละชั้นได้ โดยที่ยังดูเป็นธรรมชาติ ก็เพราะว่ามันมีสีเดียวกับผิวของคุณยังไงล่ะ ทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มีผิวแห้งหรือผิวมัน ก็ไม่แนะนำให้เลือกรองพื้นเนื้อแมทมาใช้ เพราะมันจะให้ลุคที่ไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังทำให้สุขภาพผิวของคุณดูแย่ลงอีกด้วย โดยคนที่ผิวมันอาจจะมองหารองพื้นที่เป็นสูตร Oil-Free และคนผิวแห้งแนะนำให้เลือกรองพื้นชนิดน้ำ
การเลือกเบอร์แป้งแนะนำให้ใช้วิธีเดียวกันกับการเลือกรองพื้น และควรใช้แปรงสำหรับลงแป้งจะให้ความเป็นธรรมชาติและบางเบากว่าการที่จะใช้พัฟปาดลงไปบนหน้า โดยระหว่างวันคุณสามารถใช้พัฟที่มีแป้งเก่าติดอยู่กดซับความมันบนใบหน้าได้ แต่ต้องใช้วิธีกดลงบนผิวนะคะ เพราะถ้าปาดลงไปจะทำให้หน้าของคุณเป็นคราบเอาได้ค่ะ
ทรงคิ้วก็สำคัญเช่นกัน เช่นถ้าหากคุณไม่ใช่สาวลูกครึ่ง แต่เขียนคิ้วแบบโก่งสุดๆ นั่นก็ทำให้ความธรรมชาติหายไปได้ อย่าลืมว่าคิ้วคือมงกุฎของหน้านะ เขียนให้พอดีและเข้ากับรูปหน้าของคุณเป็นดีที่สุด นอกจากจะช่วยเสริมให้ใบหน้าของคุณดูดีขึ้น ยังให้ความเป็นธรรมชาติด้วย ถ้าหากอยากรู้ วิธีเขียนคิ้วให้เข้ากับรูปหน้าของตัวเองสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย

2. เลือกสีเมคอัพตามเฉดสีผิว เป็นการดีที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถลงตา แก้ม ปาก คิ้ว ได้อย่างครบครัน โดยที่ไม่ดูเว่อ และดูเหมือนกับว่าสีสันบนใบหน้าที่คุณแต่งเติมลงไปมันเป็นธรรมชาติที่เกิดมาจากผิวของคุณเอง

บลัชออน แนะนำให้ใช้ชนิดครีม หรือคุณอาจนำลิปสติกที่คุณมีมาใช้แทนบลัชออนก็ได้ เพราะด้วยความเป็นเนื้อครีม นอกจากจะช่วยให้ติดทนแล้ว ยังให้ความเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบฝุ่นด้วยค่ะ

ผิวขาว คุณเหมาะที่จะใช้บลัชออนสีส้ม หรือที่เป็นโทนสีชมพู ตั้งแต่ชมพูอ่อนไปจนชมพูสว่างเลย เพราะนี่คือโทนสีที่เหมาะกับคุณที่สุด และจะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูมีเลือดฝาดมากขึ้น

ผิวสีน้ำผึ้ง คุณเหมาะที่จะใช้บลัชออนสีชมพูกลีบกุหลาบ เพราะจะช่วยให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลขึ้น

ผิวแทน คุณเหมาะที่จะใช้บลัชออนสีส้มอิฐ หรือสีแดงก่ำ ซึ่งสีเหล่านี้จะกลืนไปกับผิวและจะช่วยเพิ่มมิติ ทำให้ผิวของคุณดูมีสุขภาพดีมากขึ้นด้วย

ลิปสติก แนะนำให้ใช้สีเดียวกันกับบลัชออน โดยมีเกณฑ์การเลือกสีเหมือนกัน และแนะนำให้ทาลงบนนิ้วมือก่อน แล้วค่อยใช้นิ้วแตะๆ ลงบนริมฝีปากอีกที เพื่อให้ริมฝีปากของคุณระเรื่อดูเป็นธรรมชาติ
คิ้ว เลือกที่เขียนคิ้วที่มีเฉดสีใกล้เคียงกับสีผมที่สุด โดยแนะนำให้ใช้ที่เขียนคิ้วชนิดฝุ่น เพื่อให้คิ้วฟุ้งๆ เหมือนกับไม่ได้เขียน
อายแชโดว์ ที่ทาแล้วธรรมชาติที่สุด ได้แก่สีชมพู (สำหรับผิวขาว) สีส้มอิฐ (สำหรับผิวสองสี) และสีน้ำตาล (สำหรับคนผิวแทน) โดย
อายไลเนอร์ สีดำเท่านั้นที่ควรจะใช้ โดยแนะนำให้เขียนชิดเปลือกตาที่สุด และไม่ควรเขียนให้เกินจากหางตาไป
ขนตา สามารถดัดและปัดมาสคาร่าได้ โดยอาจจะเลือกเป็นมาสคาร่าสีดำหรือสีใส และปัดเบาๆ เพือล็อกขนตาให้งอนอยู่ทรง
เฉดดิ้ง ไม่ควรเลือกสีเข้มไปกว่าผิวมากนัก แนะนำให้เลือกที่เข้มกว่าผิวของเราไม่เกิน 2เฉด และปัดฟุ้งๆ อย่างเบามือ เพื่อให้หน้าดูมีมิติแต่ยังดูธรรมชาติ
ไฮไลท์ ถ้าหากเป็นคนผิวแห้งแนะนำให้ใช้ไฮไลท์สีใสที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจล จะช่วยให้ผิวดูใสและฉ่ำน้ำขึ้นมา ส่วนคนผิวมันสามารถเลือกใช้แบบฝุ่นได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่เนื้อละเอียดมากๆ ประเภทกากเพชรเป็นเม็ดๆ ไม่เอานะคะ และแนะนำให้ปัดลงไปเบาๆ เท่านั้น เพราะระหว่างวันผิวหน้าของคุณก็จะผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาอยู่แล้ว