“พวงมาลัยรถยนต์” ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะเชื่อมโยงระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถ เพราะเมื่อรถเจอกับสภาวะต่างๆ บนถนน รถจะส่งสัญญาณผ่านพวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่ต้องตัดสินใจ ควบคุม นำพารถไปถึงยังจุดหมายได้โดยปลอดภัย ยิ่งถ้าผู้ขับขี่ได้มาพบกับพวงมาลัยรถยนต์ที่ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์ ก็ยิ่งจะช่วยให้การขับขี่บนท้องนั้นถนนเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยลดความผิดพลาดจากพฤติกรรมการขับขี่โดยที่เจ้าของรถแทบไม่รู้ตัว หรือบางทีอาจช่วยให้ขับได้สนุกยิ่งขึ้นในระหว่างการเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี ดังนั้นพวงมาลัยรถยนต์จึงเป็นหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่รถยนต์จะขาดไปไม่ได้เลย
ดังเช่นที่ Steffen Koch และ Christian Heiss ผู้เชี่ยวชาญจากฝ่าย BMW Driving Dynamic Development ได้อธิบายถึงความยากลำบากของการพัฒนาพวงมาลัย เพราะกว่าจะได้เป็นพวงมาลัยในแบบฉบับของ BMW ทีมงานต้องทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์อย่างใกล้ชิด การปรับจูนอย่างละเอียด ก่อนจะส่งต่อให้วิศวกรนำระบบพวงมาลัยไปปรับให้เข้ากับแชสซี ระบบการดูดซับแรงกระแทก (Absorption) ระบบสปริง และระบบเบรก
ที่ยากไปกว่านั้นคือการปรับจูนพวงมาลัยรถยนต์ในแต่ละรุ่นถือเป็นศิลปะอีกอย่างหนึ่งของการพัฒนาระบบพวงมาลัย โดย BMW จะปรับจูนพวงมาลัยรถยนต์ของแต่ละโมเดลให้แตกต่างกัน เช่น BMW Z4 ที่เน้นความหนึบของตัวรถกับพื้นถนนเป็นสำคัญ แต่พอมาใน BMW 7 Series จะเน้นความสะดวกสบายในการขับขี่เป็นหลัก
วิวัฒนาการระบบพวงมาลัยรถยนต์ยุคใหม่
- ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ ถือเป็นการยกระดับครั้งสำคัญของเทคโนโลยีพวงมาลัยรถยนต์ เพราะก่อนหน้าที่จะมีพวงมาลัยพาวเวอร์นั้น การจอดรถถือเป็นเรื่องยากลำบากมาก เพราะพวงมาลัยรุ่นดั้งเดิมนั้นมีน้ำหนักมาก โดยเฉพาะตอนรถจอดอยู่นิ่งๆ เรียกว่าสาวกันจนมือแทบหัก แต่เมื่อพวงมาลัยพาวเวอร์ถือกำเนิดขึ้น โอ้…พระเจ้า ราวกับรถคันนั้นจะเบาเหมือนเป็นรถพลาสติกได้ในทันที เพราะระบบไฮดรอลิกนี้เข้ามาช่วยทดกำลังการหมุนพวงมาลัยให้คนขับเหนื่อยน้อยลง และสามารถหักเลี้ยวในพื้นที่แคบๆ ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
- ระบบ Servotronic คือการพัฒนาขั้นต่อไปของพวงมาลัยพาวเวอร์ระบบไฮดรอลิกที่ช่วยให้รถสามารถตอบสนองได้ดีขึ้นในระดับความเร็วที่แตกต่างกัน โดยระบบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยปรับการบังคับรถได้ตามความเร็ว ซึ่งนั่นไม่เพียงช่วยให้การจอดรถทำได้ง่ายขึ้น แต่ยังทำให้ควบคุมรถได้อย่างดีในขณะที่ขับด้วยความเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าทำให้เราขับรถได้สนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) การที่ระบบ Electric Power Steering หรือ EPS กำเนิดขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงของวงการพวงมาลัยรถยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมันช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ด้วยจากการใช้กระแสไฟฟ้าเมื่อมีการใช้งานจริงเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าหากรถขับในทางตรงการใช้พลังงานของรถจะลดลงโดยปริยาย หรือพูดง่ายๆ ก็คือสามารถประหยัดเชื้อเพลิงไปได้ถึง 3% เลยทีเดียว และระบบ EPS นี่เอง ที่ช่วยให้ระบบจดอดรถหรือระบบขับขี่อัตโนมัติถูกพัฒนาขึ้น
- ระบบบังคับล้อหลัง (Rear-wheel steering) หรือผู้ช่วยในการขับขี่ที่ทำให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงในทุกสภาพถนน ช่วยลดรัศมีการเลี้ยว และทำให้ตัวรถมีเสถียรภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะขับด้วยความเร็วสูงหรือความเร็วต่ำ เพราะระหว่างขับด้วยความเร็วสูงล้อหลังจะเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้า แต่เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำจะเคลื่อนสวนทางกัน
โดย BMW ใส่ฟีเจอร์ Rear-wheel steering ใหม่ล่าสุดจะถูกติดตั้งอยู่ใน BMW 5 Series โฉมใหม่ด้วย รับรองได้ขับสนุกแน่ๆ
ขอบคุณเนื้อหาจาก : https://www.bmw.com/
