Lotus ส่งรถรุ่นพิเศษสุดโดนใจสำหรับคนรักความวินเทจด้วยการเปิดตัว Lotus Elise Classic Heritage Edition ที่มาพร้อมกับลวดลายรถแข่งสไตล์วินเทจ สัญลักษณ์อันโดดเด่นจากประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตที่โด่งดังที่สุดในอดีตกาล
โดย Lotus Elise Classic Heritage Edition จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 สี โดยแต่ละสีต่างมีประวัติ และความสำเร็จในการคว้าแชมป์รายการแข่งขันต่าง ๆ
- สีดำ และสีทอง มาจากรถแข่ง Type 72D F1 ปี 1972 ที่ชนะการแข่งห้าครั้งด้วยฝีมือของ Mr. Emerson Fittipaldi
- สีแดง-ขาว และสีทอง มาจากรถแข่ง Type 49B ปี 1968 ขับโดย Mr. Graham Hill
- สีน้ำเงิน-แดง และสีเงิน มาจากรถแข่ง Type 81 F1 ที่ใช้ในการแข่งขัน F1 ในปี 1980 โดยมีนักแข่งทั้ง 3 ท่าน ได้แก่ Nigel Mansell, Elio de Angelis และ Mario Andretti
- ปิดท้ายด้วยสีน้ำเงิน และสีขาว ถ่ายทอดมาจากรถแข่ง Lotus Type 18 ซึ่งเป็นรถ F1 คันแรกของบริษัทฯ เผยโฉมครั้งแรกในปี 1960 โfย Sir Stirling Moss เป็นผู้ที่คว้าแชมป์ในรายการแข่งขัน Monaco Grand Prix
ด้านออพชั่นมาตรฐาน จะได้รับทั้งเครื่องเล่นวิทยุดิจิตอล DAB พร้อมลำโพง 4 ตัว, ระบบปรับอากาศอัตโนมัตื, Cruise Control, ล้อฟอร์จน้ำหนักเบา, ดิสก์เบรก 2 ชั้น, พรมสีดำ และชุดแต่งดีไซน์พิเศษรอบคัน รวมถึงสีตกแต่งภายในจะเหมือนกับสีภายนอกตัวถังตั้งแต่แผงแดชบอร์ด ชิ้นส่วนตกแต่งพวงมาลัย เกียร์ ไปจนถึงโทนสีของเบาะ
ความน่าสนใจของรถรุ่นนี้ก็คือตัวออพชั่นจะได้รับมากกว่ารุ่น Elise Sport 220 ประกอบกับจะถูกผลิตเพียง 100 คันทั่วโลกเท่านั้น พร้อมป้ายลำดับการผลิตบนแผงแดชบอร์ด และลูกค้าที่ซื้อคันที่ 100 จะได้รับสิทธิพิเศษในการเลือปรับแต่งได้ตามความต้องการ
สำหรับขุมพลังจะเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ 1.8 ลิตร ซูเปอร์ชาร์จ สมรรถนะ 220 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 233 กม./ชม.
สำหรับราคาของ รุ่นพิเศษนี้จะเพิ่มอีก 6,350 ปอนด์ หรือราว ๆ 2.5 แสนบาทจากรุ่นมาตรฐานที่มีราคาเริ่มต้นที่ 46,250 ปอนด์ หรือราว ๆ 1.85 ล้านบาท
