ในวันที่หญิงสาวสองคนได้สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะนักบินอวกาศหญิงล้วนกลุ่มแรกที่เดินออกจากยานเพื่อสำรวจอวกาศ สตรีผู้ห้าวหาญอีกสองคนก็ได้สร้างสถิติใหม่บนผืนทะเลทรายแห่งแคลิฟอร์เนีย ในฐานะแชมป์การแข่งขันออฟโรด แรลลีที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ร่วมแสดงความยินดีและเฉลิมฉลองความสำเร็จของ ‘ทีม #200’ ที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันประเภทยานยนต์ Crossover ณ งาน Rebelle Rally 2019 ซึ่งก่อนหน้านี้ในปี 2561 พวกเธอก็เคยได้รับรางวัลนี้ในการแข่งขันประเภทยานยนต์ 4×4 ออฟโรดมาก่อนแล้ว
ในการฝ่าฟันอุปสรรคและความท้าทายอย่างสมบุกสมบันตลอดระยะเวลา 8 วัน ทีม #200 ประสบความสำเร็จด้วยพลังและความสง่างาม สะท้อนให้ประจักษ์ถึงจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยที่พวกเธอมีร่วมกับยนตรกรรมคู่ใจในการแข่งขันอย่างโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน Bespoke ด้วยระยะทาง 2,300 กิโลเมตร ซึ่งนับเป็นเส้นทางแรลลีออฟโรดที่ยาวที่สุดในประเทศ ทีม #200 ได้ฟันฝ่าภูมิประเทศที่ทรหดที่สุดในสหรัฐอเมริกา และคว้าชัยชนะ ขึ้นรับรางวัลอันดับที่หนึ่งอย่างสวยงาม
เอ็มมี ฮอลล์ (Emme Hall) ผู้ขับขี่ยนตรกรรม และรีเบ็คกา ดอนากี (Rebecca Donaghe) ผู้นำทาง ได้พาคัลลิแนนบุกตะลุยฝ่าความท้าทายที่น้อยคนจะได้สัมผัส พวกเธอต้องเผชิญกับความยากลำบากในขณะที่เดินทางผ่านภูผา หุบเขา ทะเลเกลือ และเนินทรายบนทะเลทรายสุดหฤโหด
โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ได้ออกแบบและพัฒนาคัลลิแนน ด้วยเจตจำนงค์ในการมอบประสบการณ์ ‘Effortless, Everywhere’ ให้แก่ผู้ขับขี่ และบททดสอบนี้คืออีกหนึ่งความสำเร็จของแบรนด์ ทั้งยังแสดงถึงวิวัฒนาการของแบรนด์และเหล่าลูกค้าผู้กล้าหาญอีกด้วย
“การเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดในงาน Rebelle Rally พร้อมกับยนตรกรรมที่น่าทึ่งนี้ นับเป็นนับเป็นสิทธิพิเศษและเกียรติอันสูงสุด” รีเบ็คกา ดอนากีและเอ็มมี ฮอลล์ ร่วมแบ่งปันความรู้สึกของพวกเธอหลังเข้าเส้นชัย “พวกเราคิดว่านี่คือสิ่งที่คนทั่วไปอาจมองว่าบ้าบิ่นเอามากๆ และมันต้องออกมาดีแน่ๆ เราจึงรู้สึกตื่นเต้นมากตอนที่ตอบตกลงเข้าร่วมการแข่งที่ท้าทายนี้ คัลลิแนนเป็นเสมือนเพื่อนร่วมทีมคนที่สามสำหรับพวกเรา และจะอยู่ในใจพวกเราตลอดไปในฐานะนักสู้ผู้ดุดันและแข็งแกร่ง” ระหว่างช่วงการเดินทางทั้ง 8 วัน ทีมของเธอใช้เวลากว่า 80 ชั่วโมงบนเบาะหนังแท้ Bespoke เพื่อเดินทางและขับเคลื่อนไปสู่ชัยชนะร่วมกัน
งาน Rebelle Rally ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 4 คือการแข่งขัน Navigational Rally แบบออฟโรดหญิงล้วนงานแรกในสหรัฐอเมริกา งานอีเวนท์นี้มีความท้าทายและระบบการนับคะแนนที่โดดเด่นแตกต่าง โดยเน้นความแม่นยำในการนำทางและการทำเวลาเป็นหลัก ไม่ได้เน้นความเร็ว ซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันจะต้องแลกโทรศัพท์มือถือและ GPS กับอุปกรณ์นำทางแบบดั้งเดิมในการแข่งขัน ต้องต่อสู้กับข้อกำจัดทั้งด้านระยะทาง เวลา ทิศทาง และจุดเช็คพอยท์ที่ถูกซ่อนไว้
ด้วยอุปกรณ์เพียงแค่แผนที่ เข็มทิศ และหนังสือคู่มือนำทาง ทีมผู้เข้าแข่งขันหญิง 2 คน จำนวน 50 ทีม ต้องรับแรงกดดันอย่างสูงระหว่างการผจญภัยตลอดระยะทาง 2,300 กิโลเมตรผ่านภูมิประเทศอันเป็นเอกลักษณ์ของเนวาดาและแคลิฟอร์เนีย แต่ละทีมสามารถใช้ได้เพียงแค่เสบียงและอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ที่ได้เตรียมไว้ในรถเท่านั้น นับเป็นบททดสอบที่ไม่ได้อาศัยเพียงแค่การนำทางที่แม่นยำ หรือการขับขี่ที่ไม่หวาดหวั่น แต่ยังต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบอีกด้วย
คัลลิแนนได้มอบพื้นที่ที่สะดวกสบายและการขับขี่ที่เหนือระดับให้แก่คู่หูฮอลล์และดอนากีบนเส้นทางการผจญภัยนี้ ยนตรกรรมคัลลิแนนได้แสดงศักยภาพอย่างไร้ที่ติ ถึงแม้ก้อนหินและเส้นทางบนเทือกเขาแห่งแคลิฟอร์เนียจะสร้างความเสียหายให้แก่ยางรถยนต์อยู่บ้าง ทำให้ในสองวันสุดท้ายทีมต้องนำยางรถยนต์สำรองมาใช้ทั้งสองเส้น
ทะยานสู่การผจญภัย
ทีมแชมป์เปียนผู้นำคัลลิแนนขับเคลื่อนไปกับการผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้ ประกอบด้วย เอ็มมี ฮอลล์ และรีเบ็คกา ดอนากี พวกเธอได้เข้าแข่งขันคู่กันตั้งแต่ปี 2559 และทั้งคู่ต่างเป็นส่วนหนึ่งของแรลลีที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เอ็มมี ฮอลล์ อาศัยอยู่ในโอ๊คแลนด์ (Oakland) และทำงานเป็นผู้สื่อข่าวยานยนต์ให้ CNET ตั้งแต่ปี 2558 ส่วนรีเบ็คกานั้นมาจากฮูสตัน (Houston) แต่ปัจจุบันเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ในมารินา เดล เรย์ (Marina Del Rey) ทักษะความสามารถของพวกเธอเข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้พวกเธอกลายเป็นคู่หูที่เก่งฉกาจคู่หนึ่ง
สถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา
กุญแจสำคัญของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน คือสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา (Architecture of Luxury) โครงอลูมิเนียมอันเป็นกรรมสิทธิ์ของโรลส์-รอยซ์ ที่ถูกเปิดตัวพร้อมกับยนตรกรรมแฟนธอมเมื่อปี 2560 สถาปัตยกรรมแบบใหม่นี้ ถูกนำใช้กับคัลลิแนนเพื่อป่าวประกาศถึงดีไซน์อันสง่างามตามอัตลักษณ์แห่งโรลส์-รอยซ์ โดยที่ยังคงไว้ได้ซึ่งความสะดวกสบาย พื้นที่ใช้สอย และประสิทธิภาพในการใช้งานอันไร้ที่ติ
Photo: James Lipman
โชว์เคสเทคโนโลยี
การผสมผสานและหลอมรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับสถาปัตยกรรมแห่งความหรูหรา เป็นกุญแจสำคัญที่การันตีความสามารถในการมอบประสบการณ์ “Effortless, Everywhere” ของคัลลิแนน ทีมวิศวกรเริ่มต้นด้วยการสร้างระบบขับเคลื่อนที่สามารถนำประสบการณ์การขับขี่แบบพรมวิเศษ (Magic Carpet Ride) อันโด่งดังของโรลส์-รอยซ์สู่สมรภูมิออฟโรด
