เชฟโรเลต แคปติวา รถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะออกจำหน่ายในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ ขึ้นสายการผลิตอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ภายใต้หลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจในความทนทาน และการใช้งาน
คุณภาพที่ยอดเยี่ยมเป็นสิ่งที่ลูกค้าเชฟโรเลตจะได้รับจากธุรกิจร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ของจีเอ็ม ระหว่าง เอสเอไอซี-จีเอ็ม-วู่หลิง (เอสจีเอ็มดับเบิลยู) การออกแบบและระบบวิศวกรรมที่ล้ำหน้า รวมถึงศักยภาพทางการผลิตระดับโลกของเอสจีเอ็มดับเบิลยูจะส่งเสริมให้เชฟโรเลตสามารถ
นำผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่นมาสู่ประเทศไทย และตลาดอื่นๆ ทั่วโลกในอนาคต
“ธุรกิจร่วมทุนเอสจีเอ็มดับเบิลยูส่งเสริมให้เกิดการแบ่งปันผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการผลิตในเชิงลึก การเป็นหุ้นส่วนกับเอสจีเอ็มดับเบิลยูช่วยให้เชฟโรเลต ประเทศไทยและในอีกหลายประเทศขยายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลกได้มากขึ้นด้วยการใช้ประโยชน์จากขนาดของธุรกิจและขอบเขตการดำเนินงานระดับโลกของจีเอ็ม” เฮกเตอร์ บีจาเรียล ประธานกรรมการ จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
“การที่แคปติวา ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เกิดจากความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้รถรุ่นนี้เปรียบ เสมือนการเริ่มต้นที่จะพาเชฟโรเลต ประเทศไทยก้าวสู่ยุคใหม่อย่างแข็งแรง” นายเฮกเตอร์ กล่าวเพิ่มเติม
เอสจีเอ็มดับเบิลยูมีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามหลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตของจีเอ็ม ในรถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่นที่ผลิตจากโรงงานที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยในทุกขั้นตอน การผลิตตั้งแต่การปั๊มขึ้นรูปไปจนถึงการพ่นสีและการประกอบขั้นตอนสุดท้าย เอสจีเอ็มดับเบิลยูใช้การสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตของจีเอ็ม เพื่อให้รถทุกคันมีคุณภาพสูงสุดอย่างที่ลูกค้า เชฟโรเลตคาดหวังและคู่ควร
หลักการผลิตดังกล่าวของเชฟโรเลต มีพื้นฐานที่แตกต่างจากการดำเนินการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ ซึ่งมีการตรวจสอบคุณภาพของรถยนต์ก่อนออกจากสายการผลิตหรือศูนย์การผลิตเท่านั้น วิธีการดังกล่าว เรียกว่า “การตรวจสอบคุณภาพโดยทั่วไป” (Quality Inspected In) ซึ่งพบว่ามีข้อเสียหลายประการ เนื่องจากต้องอาศัยความสามารถของผู้ตรวจสอบคุณภาพในการตรวจพบปัญหาและแก้ไขข้อผิดพลาดโดยการถอดชิ้นส่วนและประกอบรถยนต์ใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้เวลานานและมีค่าใช้จ่ายสูง
“ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีที่จีเอ็มผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เราได้พัฒนาระบบคุณภาพ และกระบวนการผลิตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตจะช่วยให้ทุกกระบวนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อบกพร่องด้านคุณภาพที่อาจเกิดขึ้นนั้นจะถูกตรวจพบระหว่างการผลิตก่อนที่รถยนต์จะผลิตเสร็จสมบูรณ์” นายเผิง หลิงเฉิน ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการการผลิตของเอสจีเอ็มดับเบิลยู กล่าว
หลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตมีความสำคัญอย่างยิ่ง อายุการใช้งานของรถยนต์เริ่มนับตั้งแต่วันที่ลูกค้ารถยนต์ได้รับการส่งมอบรถยนต์ อายุการใช้งานของรถยนต์จะสั้นหรือยาวขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ สภาพของพื้นถนน ลักษณะการขับขี่ การบำรุงรักษา และปัจจัยอื่นๆ
ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถควบคุมได้
“สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ คือ การผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดโดยการควบคุมกระบวนการผลิต หลักการสร้างคุณภาพในกระบวนการผลิตหมายความว่า เราสร้างคุณภาพไว้ในทุกขั้นตอนไม่ใช่เพียงแค่ตรวจสอบคุณภาพในภายหลังเท่านั้น และด้วยการควบคุมกระบวนการผลิตนี้ ทำให้เราสามารถสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงแก่ลูกค้าของเราทุกคน” นายเผิง กล่าว
แคปติวา ใหม่ ยังถ่ายทอดประสบการณ์ที่เหนือกว่าของจีเอ็มและเชฟโรเลต ในกลุ่มรถอเนกประสงค์ แบรนด์เชฟโรเลตบุกเบิกตลาดนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 ด้วยการแนะนำซับเบอร์แบน แคร์รี่ออล และเปิดตัวรถอเนกประสงค์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมรุ่นใหม่อีกมากมาย รวมถึงเทรลเบลเซอร์ตลอด 8 ทศวรรษที่ผ่านมา
แคปติวา ใหม่ เตรียมออกจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2562 ด้วยราคาเริ่มต้นต่ำกว่า 1 ล้านบาทและมีตำแหน่งการตลาดเป็นรถอเนกประสงค์ที่คุ้มค่าที่สุดในรุ่นเดียวกัน ด้วยการผสมผสานพื้นที่ใช้สอย สไตล์ที่โดดเด่น และเทคโนโลยีอัจฉริยะ แคปติว่าจะเป็นที่หมายตาของลูกค้าที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์
แคปติวา ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์ที่มีความคุ้มค่า มาพร้อมพื้นที่ภายในกว้างขวาง สไตล์ โฉบเฉี่ยว และเทคโนโลยีอัจฉริยะ สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ารถอเนกประสงค์ชาวไทย ด้วยพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางโอ่โถงที่สุดในตลาด มีทั้งรุ่น 5 ที่นั่งและ 7 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟ และไฟหน้า LED ซึ่งเป็นเพียงคุณสมบัติเด่นบางส่วนของ แคปติวา ใหม่ เท่านั้น
“แคปติวา จะสานต่อความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากเทรลเบลเซอร์ และโคโลราโด พร้อมกับขับเคลื่อนเชฟโรเลตให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ด้วยสไตล์ที่โดดเด่น พื้นที่ภายในกว้างขวาง และเทคโนโลยีอัจฉริยะในแคปติวา เพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวัง ของกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก” นายชอน พอพพิท ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด และการสื่อสาร จีเอ็ม เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
