ในปัจจุบันเราจะเห็นรถแฮทซ์แบ็ค 5 ประตู วิ่งบนถนนกันเยอะแยะ ซึ่งแน่นอนล่ะว่า รถแฮทซ์แบ็คได้รับความนิยมและหลายคนก็หันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น แล้วสำหรับคนที่ใช้รถใช้ถนนเคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไม รถแฮทซ์แบ็ค 5 ประตู ถึงมี ใบปัดน้ำฝน ที่ด้านหลัง แล้วทำไมรถซีดานถึงไม่มี เพราะอะไรกัน??
ในประเทศญี่ปุ่นทางตอนเหนือและในยุโรปหลายประเทศ มักจะเจอรถซีดานที่ได้รับการติดตั้ง ใบปัดน้ำฝน ที่กระจกหลัง ซึ่งใบปัดน้ำฝนจะทำหน้าที่กวาดหิมะที่ตกลงมาอยู่ตลอดเวลา ถ้าไม่มีใบปัดน้ำฝน เจ้าตัวหิมะก็จะตกหล่นมาปกคลุมทั่วรถเต็มไปหมด รวมไปถึงกระจกหลังด้วย จึงทำให้ผู้ขับขี่มองทัศนวิสัยทางด้านหลังไม่เห็น แต่ในประเทศของเรา หรือประเทศละแวกใกล้บ้านเรา เรามักจะไม่เห็นรถซีดานที่ติดตั้งใบปัดน้ำฝนที่กระจกหลัง เพราะเนื่องจากสภาพอากาศบ้านเรามีแต่ฝุ่นละออง หรือมีเพียงละอองน้ำเกาะอยู่ที่กระจกหลังเท่านั้น แต่ไม่มีหิมะที่ต้องปัด ซึ่งบางกลุ่มคิดว่าการที่มีใบปัดน้ำฝนอยู่ที่กระจกหลังจะช่วยให้มีทัศนวิสัยที่ดีกว่าในขณะที่ขับรถ และยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในสภาพอากาศที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝนหรือหิมะก็ตามแต่
ตามความเป็นจริงแล้ว ขึ้นอยู่กับการออกแบบของตัวถังรถ ไม่ว่าจะเป็นรถซีดาน รถแฮทซ์แบ็ค รถอเนกประสงค์ หรือมินิแวน ได้รับการออกแบบตัวถังที่มีลักษณะท้ายตัด จึงทำให้ลมสามารถเคลื่อนจากทางด้านหน้าผ่านหลังคา แต่ไม่ผ่านกระจกบานหลังที่มีน้ำเกาะอยู่ จึงทำให้การไล่น้ำที่กระจกหลังยังเป็นไปได้ยาก ซึ่งแน่นอนว่า คนที่ตั้งคำถามว่า “ทำไมใบปัดน้ำฝนถึงไม่มีในรถซีดาน??” ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปอะไรที่ชัดเจน แต่ก็มีสื่อต่างประเทศได้เข้าไปสอบถามกับบริษัทรถยนต์แห่งหนึ่ง Skoda และได้รับคำตอบว่าการที่ติดตั้งใบปัดน้ำฝนที่กระจกหลังในรถซีดานทำให้เส้นการออกแบบของรถไม่สวย และไม่มีความจำเป็นมากถ้าเทียบกับรถแฮทช์แบ็ค รวมถึงเป็นการเพิ่มต้นทุนในการผลิตและวิศวกรรมอีกด้วย
