ช่วงนี้กระเเส จอดรถบนฟุตปาธ ทางเท้า หรือมอเตอร์ไซค์ ขับขี่บนฟุตปาธ ทางเท้า สร้างความเดือดร้อนให้คนเดินเท้ากำลังได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ซึ่งที่จริงๆ เเล้ว ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทยนานหลายปี พอเริ่มมีกระเเสข่าวเกี่ยวกับกรณี จอดรถบนฟุตปาธ ทางเท้า เเละ ขับขี่มอเตอร์ไซค์บนทางเท้า จนเฉี่ยวชนผู้คน เรื่องนี้จึงกลายเป็นท็อปปิกที่สังคมเริ่มให้ความสนใจอีกครั้ง
ในความเป็นจริงเเล้ว บาทวิธี หรือ ทางเท้า หรือ ฟุตปาธ ความหมายก็ตรงตัวชัดเจนอยู่เเล้วว่า คือทางเดิน วิกิพจนานุกรมให้ความหมายแก่คำๆ นี้ว่า ที่มักยกสูงขึ้นเหนือถนน สำหรับให้คนเดิน เพราะฉะนั้นจึงมีกฏหมายระบุออกมาชัดเจนห้ามจอดรถบนทางเท้า ใน พ.ร.บ จราจรทางบก มาตราที่ 57 ระบุไว้ว่า ห้ามจอดรถหรือขับขี่บนทางเท้า มีโทษปรับ 500บาท
นอกจากนี้ยังมีโทษที่หนักกว่าอย่าง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ 2535 มาตรา 17 (2) ห้ามมิให้ผู้ใดจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์หรือล้อเลื่อนบนทางเท้า เว้นแต่จะเป็นการจอดหรือขับขี่เข้าไปในอาคาร หรือ ประกาศของเจ้าพนักงานจราจรผ่อนผันให้จอดหรือขับขี่ได้ ส่วนผู้ฝ่าฝืนก็จะถูกปรับ ไม่เกิน 5,000 บาท ตามที่กำหนดโทษไว้ในมาตรา 56 ของ พ.ร.บ. ฉบับเดียวกัน
พฤติกรรมมักง่ายจอดรถบนฟุตปาธยังมีขั้นแอดวานซ์กว่านี้ นั่นคือการทำสิ่งก่อสร้างขึ้นมาด้วยตนเอง เช่นก่อปูน หรือตะเเกรงเหล็กทำเป็นทางให้รถของตนเองขึ้นมาจอดบน ฟุตปาธ พฤติกรรมแบบนี้มักพบเห็นได้ในผู้อาศัยอยู่ตามอาคารพาญิชย์ที่ติดถนน มีโทษความผิดขั้นร้ายแรงเนื่องจากผิด พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร ที่การระบุไว้ว่า หากใครที่ต้องการต่อเติมอาคารบ้านเรือน หรือสิ่งก่อสร้างบริเวณที่พักต้องแจ้งสำนักเขตในพื้นที่ก่อน ซึ่งหากไม่มีการแจ้งเเละทำการดัดแปลงเพิ่มเติมที่ก่อสร้างโดดพลการ มีโทษปรับต่อเนืื่องวันละ 10,000 บาท มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน
เเละเมื่อทางเขตมาตรวจสอบเห็นว่าผิดกฏหมายสั่งทุบทายทางขึ้นฟุตปาธ แต่เจ้าของบ้านไม่ยอมปฏิบัติตามมีโทษหนักจำคุกไม่เกิน 6เดือน ปรับไม่เกินหนึ่งเเสนบาทเเละปรับต่อเนื่องวันละไม่เกิน 30,000 บาทจนกว่าจะทุบทำลาย
