ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ปกคลุมทั่วกรุงเทพจนกลายเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิตของคนกรุงโดยสาเหตุของปัญหาที่ว่าก็มาจากการเผาไหม้จากรถที่ใช่้ เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งถ้าใครสูดดมเข้าไปในปริมาณมากก็ย่อมเป็นอันตรายต่อระบบหายใจ แน่นอนว่าเราได้รับการรณรงค์จากหลายองค์กรหน่วยงานว่าหากอยู่ในที่โล่งแจ้งเราทราบกันดีว่าควรสวม หน้ากาก N95 เพื่อป้องกันการสูดดม ฝุ่น PM 2.5
แต่ถ้าอยู่ภายในตัวรถล่ะ คงไม่มีใครถึงขั้นต้องสวม หน้ากาก N95 ตลอดเวลาเเม้ขณะขับรถ แต่ถึงอย่างนั้นคุณจะเเน่ใจได้แค่ไหนว่าแม้แต่ในสถานที่ปิดตายอย่างรถยนต์ ฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนที่เล็กยิ่งกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์จะมีโอกาสเล็ดลอดเข้าไปทำร้ายคุณถึงภายห้องโดยสารได้หรือไม่
คำตอบสำหรับเรื่องนี้คือ ฝุ่น PM 2.5 สามารถเล็ดลอดเข้าไปภายในห้องโดยสารรถคุณได้ โดยการที่คุณเปิดประตูรถ เปิดกระจกจ่ายค่าทางด่วนหรือเข้ามาทางช่องระบายอากาศรถ และแม้ว่าระบบเครื่องปรับอากาศในรถยนต์จะมีแผ่นกรองอากาศก็ไม่สามารถกรองอนุภาคฝุ่นขนาด PM 2.5 ได้แต่ปัญหาดังกล่าวยังพอมีทางแก้ไขจัดการด้วยตัวคุณเองได้ดังต่อไปนี้
ทุกครั้งที่คุณเริ่มได้กลิ่นจากภายนอกเข้ามาในรถ เช่นกลิ่นเหม็นควันรถขณะจอดติดสัญญาณไฟ ควรรีบเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ เเละไม่ใช่ว่ากรอกอากาศรถยนต์ทุกคันจะสามารถดักจับไม่ให้ ฝุ่น PM 2.5 เข้ามาในรถคุณได้ ควรเลือกกรองอากาศแบบ HEPA Airfilter ที่สามารถกรอกฝุ่นมลพิษได้ที่ PM2.5 – PM0.3 ซึ่งปัจจุบันมีขายตามท้องตลาดและควรเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศอย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุก ๆ 15,000 กม.
นอกจากนี้อุปกรณ์อย่าง Laser Egg ที่สามารถพกไปได้ทุกที่เพื่อบอกค่ามลพิษได้ทั้งฝุ่นเเละเสียงก็สามารถติดตั้งไว้ในรถได้เช่นกันพร้อมกับติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในรถเพื่อกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก กลิ่นไม่พึงประสงค์ กรองแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรคในอากาศ กรองควันบุหรี่ แต่ก็ยังมีอีกวิธีที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองทุนทรัพย์คือเปิดระบบอากาศหมุนเวียนภายในห้องโดยสารจะช่วยดักอากาศจากภายนอกไม่ให้เข้ามาในรถเเล้วใช้การหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารแทนควบคุมไม่ให้อากาศภายนอกเข้ามาในรถได้
