หลังจากทางหน่วยงานรัฐบาล และหน่วยงานด้านสาธารณสุข ได้มีการประกาศให้หน่วยงานจังหวัดต่าง ๆ ทั้ง 42 จังหวัด ออกมาตรการกวดเข้ม ขอความร่วมมือ ไปจนถึงการล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยงต่อการระบาดของไวรัส COVID-19 รวมถึงการบังคับให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาเมื่ออกนอกเคหะสถาน หากฝ่าฝืนก็จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จนกระทั่งมีผู้ฝ่าฝืนคำสั่งไม่ได้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยจนถูกจับกุมและโดนโทษปรับไปบางรายแล้วจนเป็นกระแสในโลกโซเชียล
แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ ในกรณีที่ตัวคุณอยู่ในรถ มีความจำเป็นต้องสวมหน้ากากผ้าตลอดเวลาหรือไม่ ซึ่งหากเป็นรถหรือยานพาหนะโดยสารสาธารณะนั้นแน่นอนว่าต้องใส่ไว้ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีความเสี่ยงต่อการติดต่อไวรัสโควิด-19 สูงสุด
แล้วหากอยู่ในรถส่วนตัวล่ะ? ไม่ว่าจะนั่งคนเดียวเพื่อไปทำงาน หรือนั่งกันเป็นครอบครัวเพื่อนฝูง ที่เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัว หากไม่ได้สวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย จะมีความผิดหรือไม่
จากข้อมูลฝ่ายกฎหมาย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานอื่น ๆ ได้เผยว่าหากมีผู้ขับขี่อยู่ภายในรถอย่างมิดชิดเพียงคนเดียว สามารถใส่หรือไม่ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในระหว่างขับขี่ได้ ทว่า หากต้องเปิดกระจกเพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนเปิดกระจกรถ
แต่หากมีผู้โดยสารมานั่งด้วยต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาอยู่ภายในรถ เพื่อป้องกันการกระจายเชื้อไวรัสภายในรถไม่ว่าจะมาจากปัจจัยภายในหรือภายนอกก็ตาม แม้จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวก็ตาม
สำหรับกรณีผู้ขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ หรือผู้ซ้อนท้าย หรือรถสามล้อ ต้องสวมหน้ากากไว้ตลอดเวลา และควรเลือกหน้ากากที่กระชับเข้ากับใบหน้าเพื่อป้องกันลมตีจนเสียทรง
สำหรับผู้ที่มีความจำเป็นต้องนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถส่วนตัวนั้น อยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อมูล แต่ในทางเบื้องต้นหากไม่มีความจำเป็นไม่ควรนำสัตว์เลี้งออกข้างนอกโดยพลการ
โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยจะปรับเฉพาะผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะมีเจตนาหรือไม่ก็ตาม โดยจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท/คนที่ไม่ได้ใส่หน้ากาก จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์
ทั้งนี้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และเพิ่มการป้องกันให้รัดกุมยิ่งขึ้น ทั้งสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พกเจลแอลกอฮอล์-สเปรย์แอลกอฮอล์ วางแผนเส้นทางและเวลา รวมถึงกลับถึงบ้านรีบทำความสะอาดร่างกายทันที
เครดิตข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค และ bangkok.go.th
