ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เรามักได้เห็นเด็ก เเละเยาวชนหรือรวมนักขับขี่หน้าใหม่ขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ บนท้องถนนทั้งที่พวกเขาเหล่านี้อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ในการทำ ใบขับขี่ ด้วยวุฒิภาวะเเละประสบการณ์ที่ยังน้อย เราจึงเห็นข่าว เด็ก เเละเยาวชนขับรถประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อย่างเช่นเหตุการณ์ล่าสุดที่เยาวชนอายุ 13 ปี ขี่ บิ๊กไบค์ ชนผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนท้องถนนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย จนสังคมได้ตั้งคำถามว่า ทำไมเยาวชนอายุ 13 ปี จึงสามารถขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนได้
พ.ร.บ รถยนต์ ได้ระบุอายุตามเกณฑ์ของประชาชนที่สามารถทำ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนตัวแบบบุคคลชั่วคราว ไม่เกิน 110 ซีซี ผู้ขับขี่ต้องมีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์, 20 ปี บริบูรณ์สามารถทำ ใบขับขี่จักรยานยนต์ ส่วนบุคคล เเละ 20 ปี สามารถทำ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนบุคคลสาธารณะ
แม้กฏหมายจะกำหนดอายุในการทำใบขับขี่ไว้ชัดเจน แต่เยาวชนเเละผู้ขับขี่หน้าใหม่ต่างฝ่าฝืนกฏหมายเป็นจำนวนมากเพราะไม่มีกฏหมายเอาผิดเด็กเเละผู้ปกครองที่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ขับขี่รถ แต่ก็มีกฏหมาย 2 ฉบับที่สามารถเอาผิดในเคสดังกล่าวได้
ฉบับเเรก พ.ร.บ. รถยนต์ 2522 กำหนดบทลงโทษผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบขับขี่โดยระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท อีกฉบับคือ พ.ร.บ. ทางบกแก้ไขปรับปรุงปี พ.ศ. 2562 กำหนดการขับขี่รถบนท้องถนน กำหนดการหยุดรถหากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
นอกจากนี้คู่กรณีสามารถฟ้องร้องทางอาญาเเละเเพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายจากเด็กที่เเละเยาวชนที่ขับขี่รถจนเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียหายต่อทรัพย์สินเเละร่างกายได้
ล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เตรียมเปิดอบรมทำใบขับขี่ “บิ๊กไบค์” แก่ผู้ขับขีบิ๊กไบค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เกิน 400 ซีซีขึ้นไปโดยเฉพาะ หรือความจุไม่ถึงแต่เครื่องยนต์ที่มีกำลังตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ หรือ 47 แรงม้า ขึ้นไป ก็จะเข้าข่ายด้วยเช่นกัน
โดยจะต้องเข้ารับการฝึกอบรมภาคทฤษฏีเเละปฏิบัติเฉพาะทาง เพื่อจะได้เป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องกฏหมายจราจรเเละทักษะในการขับรถบิ๊กไบค์ โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ต้องมีอายุครบ 18 ปี บริบูรณ์
- มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี (ส่วนผู้ที่มีใบขับขี่รถมอเตอร์ไซต์แบบตลอดชีพ จะได้รับการยกเว้นทำใบขับขี่บิ๊กไบค์)
- ผ่านการฝึกอบรมการขับขี่เฉพาะ ตามหลักสูตรที่กรมการขนส่งกำหนด
- ผ่านการสอบข้อเขียน และผ่านการขับทดสอบปฏิบัติในสนามจริง
