GM ประกาศเปิดตัว Chevrolet Bolt รุ่นปรับโฉมใหม่ สานต่อความสำเร็จของรถแฮทช์แบ็คไฟฟ้าที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2017 ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์-ออพชั่นใหม่ และเปิดตัว New Bolt EUV คอมแพ็คครอสโอเวอร์ที่มาพร้อมออพชั่นหรูล้ำโดนใจคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
Chevrolet Bolt ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ ด้วย ยอดขายมากกว่า 100,000 คันทั่วโลก ที่สำคัญผู้ซื้อ 75% เป็นลูกค้า GM ครั้งแรกอีกด้วย
สำหรับการปรับโฉมใหม่นี้ เริ่มจากการปรับดีไซน์ส่วนหน้าใหม่ ตั้งแต่กระจังหน้า ไฟหน้าพร้อมไฟ LED แบบ “high-eye” ฝากระโปรงหน้า รวมถึงด้านท้ายก็มีการออกแบบกันชนท้ายกับแผงทับทิมใหม่ พร้อมไฟท้ายและบานประตูท้ายที่ดูดี ทันสมัยกว่าเดิม
ด้านภายในได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ดูทันสมัย ดูดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยพวงมาลัยใหม่, ชุดสวิตซ์เกียร์ใหม่, แผงคอนโซลกลางแบบลอย พร้อมชิฟเตอร์ปุ่มกดดีไซน์ใหม่, เรือนไมล์จอดิจิตอลขนาด 8 นิ้ว, จออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10.2 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน Apple CarPlay แบบไร้สาย และแอปพลิเคชั่น, เบาะแบบใหม่ เป็นต้น
สำหรับโฉมนี้ได้ภูมิใจนำเสนอ Chevrolet Bolt EUV ใหม่ ที่ได้รับการปรับตัวถังจากแฮทช์แบ็ค เป็นคอมแพ็คครอสโอเวอร์ ที่ได้ปรับมิติตัวถังใหม่ ด้วยความยาวที่เพิ่มกว่าเดิม 160 มม., ระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 74 มม. และส่งผลให้มีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 993 มม. แต่ในด้านมิติภายใน และความจุห้องสัมภาระท้ายมีขนาดเท่าเดิม
ขณะที่รายละเอียดภายนอกก็มีการปรับเปลี่ยนไปเล็กน้อยด้วยกระจังหน้าทรงใหม่, การออกแบบไฟหน้าใหม่เล็กน้อย พร้อมกับปรับดีไซน์กันชนหน้า-หลัง, ราวหลังคา และเสริมแถบโครเมียมที่ซุ้มประตูใหม่
สำหรับภายในนั้นจะมีการเพิ่มออพชั่นจากรุ่นแฮทช์แบ็คหลายรายการอาทิ แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายเป็นออพชั่นมาตรฐาน รวมถึงออพชั่นรุ่นท็อปที่ได้รับการติดตั้งเพิ่มเติม อาทิ หลังคาพาโนรามิครูฟ, เบาะนั่งหน้าหลังพร้อมฮีทเตอร์และระบบระบายความร้อน เป็นต้น
รวมถึงได้รับระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Super Cruise ประเดิมใน Bolt EUV ระดับตัวท็อปรุ่นแรก ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปล่อยให้รถวิ่งได้โดยไม่ต้องจับพวงมาลัยได้ไกลกว่า 321,869 กม. ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
สำหรับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ จะได้รับทั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบแจ้งเตือนพร้อมเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติรองรับการตรวจจับรถคันหน้าจนถึงคนเดินเท้า, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องเลน, Adaptive Cruise Control, ระบบแจ้งเตือนด้านหลักหากพบรถวิ่งตัดหลัง รวมถึงกล้องมองหลังแบบ HD Surround Vision
ระบบขับเคลื่อนของตระกูล Chevrolet Bolt ทุกรุ่น มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า 203 แรงม้า (PS) แรงบิด 360 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 65 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 416 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
แต่สำหรับ Bolt EUV ที่เป็นรถครอสโอเวอร์ จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งคาดว่าระยะทางที่วิ่งได้อาจจะอยู่ราว ๆ 402 กม./ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
สำหรับการรองรับการชาร์จไฟแบบกระแสตรง (DC) นั้น เมื่อ Bolt ทั้งสองตัวถังใช้เวลาชาร์จภายใน 30 นาที ผ่านการชาร์จไฟ DC 11 กิโลวัตต์ จะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 161 กม. ส่วน Bolt EUV จะวิ่งได้ไกลถึง 153 กม.
สำหรับประสิทธิภาพการชาร์จไฟบ้านที่เป็นกระแสสลับ (AC) นั้นจะสามารถรองรับได้สูงสุด 240V โดยจะได้รับปลั๊กไฟชาร์จรถ 120V แบบมาตรฐาน ที่สามารถชาร์จให้เต็ม 100% ได้ภายใน 7 ชั่วโมง หรือชาร์จแค่ 1 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลถึง 6.4 กม.
ขณะที่ Bolt EUV จะมีปลั๊กไฟ 2 แบบ ทั้งแบบ 120V และ 240V เป็นออพชั่นมาตรฐาน ส่วนตัวถังแฮทช์แบ็ค สามารถซื้อปลั๊ก 240V เพิ่มเติมได้
Chevrolet Bolt รุ่นปรับโฉม และ Chevrolet Bolt EUV ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงฤดูร้อนปีนี้เป็นต้นไป โดยราคาเริ่มต้นของรถแฮทช์แบ็คจะอยู่ที่ 31,995 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 9.55 แสนบาท ขณะที่ Bolt EUV จะเริ่มต้นที่ 33,995 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 1.01 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอรถรุ่นพิเศษต้อนรับการเปิดตัวรุ่นใหม่อย่าง Chevrolet Bolt EUV Launch Edition ที่มาพร้อมกับตราโบว์ไทสีดำ, ล้อดีไซน์พิเศษ พร้อมออพชั่นระดับไฮเอนด์ครบครัน สนนราคาเริ่มต้นที่ 43,495 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 1.29 ล้านบาท
เครดิตข้อมูลจาก carscoops.com
