ในหลักโหราศาสตร์จีน ทุกแขนง เรามักจะได้ยินคำนี้เสมอว่า “ฟ้าคนดินรวมกันเป็นหนึ่ง” หรือ 天人地合一 เทียนเหรินตี่เหออี่ ดังนั้นโชคชะตาของคนเรา หรือ การดำเนินชีวิตของคนเรานั้น ย่อมเกี่ยวกับ 3 ปัจจัยหลัก ดังนี้
1.ปัจจัยแห่ง ฟ้า เรียกว่า เทียนไฉ 天财 หมายถึง วัน เดือน ปี เกิด ที่คนคนนั้น รับพลังงาน ปราณแห่งพลังมังกรของจักรวาล นับตั้งแต่ สูดลมหายใจครั้งแรกในวันเกิด พลังจักรวาลตรงนี้ คือ พลังแห่ง ดวงดาวหรือ ดาราศาสตร์ ซึ่ง ทุกคนที่เกิดในเวลาเดียวกัน จะมีพลังงงาน ตรงนี้ เท่ากันด้วย พลังงานตรงนี้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หรือ เรามักคุ้นหู กับคำว่า ดวงชะตาฟ้ากำหนดนั่นเอง
2.ปัจจัยแห่ง คน เรียกว่า เหรินไฉ 人财 พลังงานตรงนี้ คือ การแยกแยะ ความสามารถ รูปร่างหน้าตา ที่มาจาก เชื้อชาติพันธุกรรม ที่แตกต่างกัน พลังงานคนตรงนี้ ใช้แยกแยะ จริตความสามารถ ของแต่ละคน หรือ ความฉลาดของคน เพราะ คนที่ต่างพันธุกรรมกัน ย่อมมีความสามารถ รวมถึง เศรษฐฐานะ การเลี้ยงดู ที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้น คนที่เกิดวันเดียวปีเดียว เวลาเดียวกัน หรือเป็น แฝดกัน มีพันธุกรรม ที่ต่างกัน ในเชิงลึก จึงมี มีโชคชะตาที่ต่างกันไป หรือ ศักยภาพของคนที่แตกต่างกัน
3.ปัจจัยแห่ง ดิน เรียกว่า ตี่ไฉ 地财 คือพลังแห่งดิน เป็นปัจจัยที่เก็บพลังงานของฟ้าและดิน รวมถึงการเก็บรักษาพลังงานของคนด้วย พลังงงานของดิน ที่มีผลต่อคนคือ ที่พำนัก เช่น บ้าน ที่อยู่อาศัย โรงงาน บ้าน หรือ สุสาน พลังงานของดินในแต่ละพื้นที่ นั้น เก็บพลังงาน ตามสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ที่ไหนมีชัยภูมิ ภูมิสถาปัตย์ดี ย่อมมีพลังงานที่ด้วย เพราะ พื้นดินนั้น เก็บพลังงาน ผ่านลมและน้ำ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยนั่นเอง ดังนั้น สำหรับคนที่มีเศรษฐฐานะดี สามารถปรับโชคชะตาได้ง่ายที่สุดนั่นคือการปรับฮวงจุ้ยนั่นเอง
หลักการวางฮวงจุ๋ย แซกีหรือ การทำ ฮวงจุ้ย ที่อาศัย พลังงานธรรมชาติ มาเสริมโชคชะตาคนทำ ดังนั้น โดยทั่วไปแล้ว หลักการของพลังงานหยินหยาง ของการทำฮวงซุ้ยหลุมฝังศพของผู้วายชน สุสาน หรือ แซกี คือ พลังงานหยาง คือ วิญญาณ คือ สิ่งที่ทำให้คนมีชีวิตจิตใจหรือความคิด ร่างกาย ถือว่าเป็น สสารหรือพลังงานหยิน ดังนั้นการมีชีวิต โดยแท้จริง จะต้อง ประกอบด้วย 2 ปัจจัย คือ ชีวิต นั้นประกอบไปด้วย ร่างกาย และ วิญญาณ จึงเรียกว่า การมีชีวิต วิญญาณ หรือ จิตใจ เป็นตัวขับเคลื่อนหรือ มีคำสั่ง โดยตรงต่อร่างกาย แต่เมื่อเรา เสียชีวิตไป หรือ บรรพบุรุษเสียชีวิต หลักการของปรัชญาหยินหยาง พลังงานหยาง หรือ จิตวิญญาณ ต้องคืนสู่ฟากฟ้า ส่วนร่างกายหรือ สสาร คือพลังงานหยิน คืนสู่ดิน แต่ใดๆก็ตาม พลังงานและสสารไม่สูญไปจากโลกใบนี้หรือจักรวาล แต่สามารถเปลี่ยนรูปได้ พลังงานและ สสารจึงไม่หายไปไหน การฝังร่างผู้วายชนม์ หรือ บรรพบุรุษ ในสถานที่ที่ดี ลมดี และ สภาพแวดล้อมดี แม่น้ำดี ภูเขาดี ก็จะเก็บพลังงานหยินหยาง หรือ พลังงานปราณมงคลตรงนี้ได้ เพราะพลังงาน หยางจะ ลอยสู่ฟ้า อากาศ และพลังงานหยางหยุดที่น้ำ เก็บพลังงงาน ในที่โอบอุ้มพลังงานได้คือ ที่ที่มีขุนเขามงคลโอบล้อม ดังนั้น การหาหลุมฝังศพที่ดี ของบรรพบุรุษ ก็จะสามารถรักษาพลังงานของหยินหยาง ปราณมงคลของ บรรพบุรุษ ที่ส่งเสริมลูกหลานไว้ได้ เสมือนกับพลังแห่งห้วงจักรวาลนี้ รักษาพลังงานที่ดีของ บรรพบุรุษไว้ส่งเสริมลูกหลาน หรืออาศัยพลังงานธรรมชาติมาส่งเสริมเจ้าของดวงชะตา จากธรรมชาติด้วยหลักการนี้เอง
แล้วทำไม ต้องเลือก สุสาน ของโครงการเนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปาร์ค บ้านบึง ซินแซ ขออธิบายหลักการ ที่เรียกว่าชัยภูมิที่ดี ดังนี้
1.ตำแหน่งด้านหลังภูเขา ที่กระทำการฝังศพ หรือ เขาด้านหลังเป็นชัยภูมิหลัก ของ สุสานแห่งนี้ ได้ตำแหน่งรูปทรงภูเขา 5 ทองคำ เรียกว่า อู่จินซาน 五金山 ซึ่งแนวทิวเขาด้านหลังนี้ นับเชื่อมกัน ได้ ส่วนสูง ที่เป็นรูปโดม ประมาณ 7 แนวทิวเขา หรือเรียกว่า ตำแหน่ง 7 ดาวเหนือ ตำแหน่ง ดาวเหนือ นี้ เป็น ภูเขาที่อยู่ ทางด้านหลัง หรือเรียกว่า ตำแหน่ง เสวียนอู่ 玄武 เป็นตำแหน่งสนับสนุน ตำแหน่งนี้ มีลักษณะมงคลเป็นตัวส่งเสริมพลังงานหลัก จากภูมิศาสตร์ ให้ความมงคล ในเรื่องความมั่งคั่ง ความอบอุ่น ในครอบครัวและสุขภาพ เป็นสัญลักษณ์ที่ดี
2.ตำแหน่งด้านซ้าย และขวา คือ ตำแหน่งมังกรเขียว และเสือขาว เราพิจารณา บริเวณหน้าประตูด้วย ตำแหน่งด้านซ้าย ของภูเขาหลัก ยาวมาตรงตำแหน่ง ซุ้มประตูเมื่อดูจากระยะไกล ได้ตำแหน่ง เปิดปากประตูมังกร 清龙开口 เปิดปากประตูมังกรเงินทองเข้ามา หมื่นหาบแสนหาบ
3.ด้านหน้าของสุสาน ชัยภูมิโดยรวม มีแอ่งเก็บพลังดี มีเนินหงส์นภา และ สายน้ำ พาดผ่าน ตามหลักชัยภูมิ ฮวงจุ้ยจัดว่าเป็นมงคล ยิ่งนัก
ดังนั้น ด้วยสถานที่ ในการ ประกอบพิธีและการฝัง หลุมศพหรือ สุสาน รวมถึงการทำพิธี แซกีเจ่าอุ่ง จึงได้รับพลังงานที่ดี ของ เนอร์วาน่าด้วย แน่นอนการทำแซกี จะต้องประกอบด้วยพลังงงาน ฟ้า คน ดิน ที่ประสานกัน ดังนั้น การทำพิธีที่ เนอร์วาน่า เมมโมเรียล ปารค์ จึงเป็นสถานที่ ที่เหมาะสมที่สุด ในการทำพิธีทางฮวงจุ้ย จากนั้นการใช้พลังงานฟ้า เราก็ ต้องหา วัน เวลา ฤกษ์ยาม ที่สนับสนุนเจ้าชะตา ในการทำพิธี สำหรับการทำแซกี จะต้องมีตัวแทนของพลังงานคน นั่นคือ สิ่งที่ได้จากตัวคนในการทำพิธี มีดังนี้ได้แก่
1. เศษเล็บมือ 10 เล็บมือ
2.เศษเล็บเท้า 10 เล็บเท้า
3.เสื้อที่ใส่ มีกลิ่นอายเหงื่อยิ่งดี
4.น้ำลาย
5.น้ำเลือด 4-5 หยด หรือ อาจหยด ในตอนทำพิธี
6.น้ำบริสุทธิ์
7.ของมงคลต่างๆ แล้วแต่สายวิชา อันได้แก่ ธัญพืช 5 สี ของจากธรรมชาติ
8.พวกเงินทองเครื่องประดับของมีค่า ที่ใส่บูชาดวงชะตา
เราจะบรรจุในโถใส่ แซกี พร้อมกับ ป้ายชื่อของเราที่บรรจุดวงชะตา ในการวางแซกีนั้นเราจะหัน ป้ายชื่อ เป็นตัวแทนของเราไปรับพลังงาน มงคลของแต่ละคน ในทิศทางที่เหมาะสม โดยทั่วไปถ้าต้องการมีสุขภาพดี ให้หันไปยังทิศถ่ายเทต่อดวงชะตาอยากได้ทรัพย์ ให้หันไปยังธาตุโชคลาภ อันนี้แล้วแต่รากฐานวิชาของซินแซ แต่ละท่านเลย
จากนั้นก็ทำพิธีแต่ละสายวิชาเป็น อันสิ้นสุด ด้วยหลักการ นำพลังงานคน และพลังทางฮวงจุ้ย เข้ามา ใช้ จึงเสมือนการนำพลังงานจากตัวเรา มาบรรจุให้เข้ากับธรรมชาติใหม่เหมือนการเกิดใหม่อีกครั้งตามหลัก ของ สายวิชาฮวงจุ้ยค่ะ การทำพิธีนี้ จึงง่ายสะดวกอย่างยิ่งของคนยุคปัจจุบัน เพื่อต้องการปรับสมดุลคุณภาพดวงชะตา การเงิน การงาน ความรัก ความสัมพันธ์ เพื่อความสุข ต่อไป
มาถึงกับคำถามที่ว่า ทำไมนักธุรกิจ หรือ เศรษฐี หรือ ขุนนางราชการชั้นสูง จึงนิยมแซกี และ ทำไมต้องทำที่เนอร์วาน่าด้วย และการทำแซกี ทำไมทำแล้ว คนถึงสมหวังร่ำรวย มากขึ้นว่าด้วยหลักการทาง ฮวงจุ้ย มีคำตอบ
1. การทำแซกี เหมือนกับ การเกิดใหม่หรือรับพลัง เนื่องด้วยการทำแซกี คือ การนำพลังงานที่อยู่ในตัวเอง มาบรรจุใหม่ เชื่อมโยงกับธรรมชาติ ในทุกครั้งที่คุณ ทำ แซกี ในยามที่คุณดวงดี นั้นพลังงานตรงนี้จะเสริมให้คุณ มีกำลัง ในการคว้าชัยชนะ หรือ ธาตุในดวงชะตาคุณ มีพลังเหมือนเด็กเกิดใหม่กลายเป็นหนุ่มสาวในดวงชะตาอีกครั้ง จึงทำให้ คุณมีโอกาสต่อสู้คว้าชัยชนะ อันเป็นโชคลาภ ในดวงชะตา มาได้ โดยง่าย ประการที่ 2 ในยามที่คุณ ดวงตก คือดวงชะตา ธาตุในดวงคุณ อ่อนกำลัง อาจจะพบในปีชง ปีปะทะดวงชะตา หรือ ตำแหน่งเทวดาในดวงไร้กำลัง มักมีปัญหาสุขภาพหนี้สินคดีความ คนจะหาทางออก โดยการทำแซกี เพื่อเพิ่มพลังงานชีวิต ในดวงที่อ่อนแอ อ่อนแรง ลำบากทุกข์เข็ญ ให้สามารถตั้งรับฟื้นฟู โอกาส ทางธุรกิจ เพื่อ สร้างความร่ำรวย ต่อไปได้ด้วยการรับพลังงานจากธรรมชาติ
คำถามที่ 2 การทำแซกี ควรทำกี่ครั้ง แล้ว ชีวิตคนเรา สามารถทำแซกี ได้สูงสุด จำนวนเท่าไร
คำถามนี้เป็นคำถาม ที่มีคนถามซินแซ มาตลอดว่า การทำแซกี ทำได้กี่ครั้ง แล้วเมื่อไรควรทำ ซินแซ ขออ้างอิง จากวิชาของโหราศาสตร์จีน หรือ เรียกว่า ปาจื่อ ที่ โบราณนิยมศึกษา อ่านตำราชีวิต มาจนถึง ปัจจุบันนะคะ คำตอบ คือ การทำ แซกี สามารถทำได้สูงสุด ทั้งหมด 6 ถึง 8 ครั้ง ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นมาดูกัน
ในหลักของโหราศาสตร์จีนปาจื่อ เวลาเราวิเคราะห์ดวงชะตา ดวงชะตาของคนจะประกอบไปด้วยไปด้วยเรื่องหลักๆ 6 ประการ ที่เกี่ยวข้องกัน 6 ประการหรือ 6 เสาโชคชะตานี้ จึงเป็นเรื่องราวชีวิตของคน ที่สามารถคำนวณ ได้จากวันเดือนปีเกิดนั่นก็คือ
1. เสาโชคชะตาที่ 1 คือ ปีเกิด เกี่ยวข้องกับ พ่อแม่ ธุรกิจใหญ่ๆ โอกาส ในหน้าที่การงาน หรือ ความสัมพันธ์กับสังคม ประเทศชาติ หรือเรื่องใหญ่ๆ เสาโชคชะตาหลักปี จึงเหมือน เสาโชควาสนาใหญ่ เวลาเราวิเคราะห์ว่าปีไหนชง เราดู ที่เสาหลักปี หรือ ปีเกิดคุณชง กับ ปีจร ในแต่ละปี เราก็ดู เสาโชคชะตาหลัก ปี ดังนั้น ในชีวิต คนเรา ถ้ามีโอกาส ทำแซกี ก็ควรทำ แซกี อย่างน้อย 1 หลุม หรือ 1 แปลง เพื่อเสริมวาสนา เพราะ วาสนาคือ โอกาส และผู้ใดไร้โอกาส ผู้นั้น ย่อมมีอุปสรรคในชีวิตมาเยือนเสมอ ชาวจีนจึงนิยม ทำแซกี ในปีชง เพื่อป้องกัน วาสนาตัวเองถูกทำลายและเสริมอำนาจวาสนานั่นเอง
2.เสาโชคชะตาที่ 2 คือ เสาหลักเดือน เสาหลักนี้ คือ พลังงานเสริมชีวิต หรือ การมีกำลังของชีวิต เรียกว่าเสา แห่งฤดูกาลธาตุที่เสริมดวงชะตา เสานี้ คือ หน้าที่การงาน ความร่ำรวย หรือ ธุรกิจหลัก ดังนั้น เมื่อปีใด เป็นปีชง ของดวงชะตาในหลักเดือน เศรษฐีนักธุรกิจ หรือ ขุนนางใหญ่ชาวจีน จะนำดวงชะตา ในหลักเสาโชคชะตาในเดือนเกิด มาทำพิธีแซกี เพื่อ ป้องกันหน้าที่การงาน หรือ เสริมในด้านตำแหน่ง
3.เสาโชคชะตาที่ 3 คือ เสาหลักวันเกิด ในตำแหน่งวันเกิด เป็นตัวแปรความหมาย ของ ทรัพย์สิน และคู่ครอง เสานี้ มีความสำคัญ เทียบเท่ากับ เสาหลักปี และเป็นเสาที่บอกถึงความร่ำรวย ดังนั้น เมื่อปีใด ที่ ชงต่อ ดวงชะตาคุณ เสาหลักนี้ ในวันเกิด เราจะนิยม ทำแซกี เพื่อรักษา สุขภาพ เสานี้คือเสา โชคชะตาที่บอกถึงความสำคัญที่สุดคือ เสาแห่งความร่ำรวย เสาแห่งความรัก ดังนั้นโดยทั่วไป ถ้าต้องการ ความร่ำรวย และร่างกายแข็งแรงความรักดี ก็จะนิยม เสริมโชคชะตา แซกี เพื่อกระตุ้นเสาวันเกิดให้มีพลัง
4.เสาโชคชะตาที่ 4 คือ เสาแห่งลูกหลานและบริวาร เสาโชคชะตานี้ เขาจะเสริมเรื่อง กิจการที่มีลูกน้องเยอะ ให้ลูกน้องเชื่อฟังหรือ มีพลังในการควบคุมลูกน้องให้ธุรกิจเดินหน้า และ เสาโชคที่ 4 หรือ เสาเวลาเกิด ยังช่วยให้ลูกหลานมีความสุข ปรองดรองรักกัน จึงนิยมทำ ใน ผู้อาวุโส หรือเจ้าของกิจการระดับใหญ่ๆ
5.เสาโชคชะตาที่ 5 คือ เสาโชคลัคนา หรือ เสาโชคแห่งเทวดาผู้พิทักษ์ ดวงชะตา เสาโชคชะตานี้ คือ ความสัมพันธ์ของพลังงาน ของหลักวัน และหลักยาม ในการเชื่อมโยงกัน ดังนั้นตำแหน่งตรงนี้ จึงเสมือนภาพลักษณ์ ที่คนมองเห็นคุณ ธุรกิจที่อาศัยภาพลักษณ์ ต้องการเด่นดัง หรือ ทำธุรกิจ ที่มุ่งเน้นเข้าตลาดหุ้น หรือ การค้าระหว่างประเทศ หรือ นักการเมือง ขุนนางใหญ่ที่ค้าขายต่างประเทศ ควรใช้ ตำแหน่งดวงชะตา ของเสาลัคนา หรือ เทวดา พิทักษ์ดวง มาคำนวณในการวางฮวงจุ้ยแซกี เสาโชคชะตานี้คือเทพคุ้มครอง ดวงชะตา คอยปกป้องปัดเป่าสิ่งไม่ดี เสานี้ก็มีความสำคัญ
6.เสาโชคชะตา 10 ปี หรือเรียกว่าเสาโชคใหญ่ เสาโชคชะตา คือพลังงานของฤดูกาล ที่มาประทับ หรือ ทำลาย ดวงชะตาซึ่งแต่ละคน มีเสาโชคชะตาแบบนี้เช่นกัน บ้างก็เรียกว่า เสาโชคดีใหญ่ 10 บ้างก็เป็นเสาโชคร้ายใหญ่ 10 เสาโชคชะตา นี้ ถ้าเดินเข้ามาดีจะรุ่งเรืองไปนาน 10 ปี ถ้าเป็นเสาโชคร้าย ต่อให้ดวงชะตาดีแค่ไหน เสาโชคร้าย 10 ปีเดินทางมา ตามหลักโหราศาสตร์จีน คนจะมั่งคั่งร่ำรวย ก็ รอเสาโชค 10 ปีมาเยือน และในทางตรงกันข้าม คนก็เตรียมใจหาทางแก้ไข ที่เสาโชคร้ายจะมาเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเรา รู้ดวงชะตา ก็ จะวิเคราะห์เสาโชค 10 ปี เพื่อแก้ไข ปรับปรุงดวงชะตา
สำหรับซินแซเองถ้าจะแนะนำคนทำแซกี ตามหลักโหราศาสตร์จีน ซินแซแนะนำ ควรทำแซกี อย่างน้อย 1 ถึง 3 หลุม โดย จะเลือก การคำนวณจากเสา หลักปี หลักวัน และ เสาโชคชะตาใหญ่ เพราะ ชีวิตของคนเรานั้น ต้องการความยิ่งใหญ่โอกาส หรือวาสนา คือ พลังงานแห่ง เสาหลักปี ความมั่งคั่ง ทรัพย์สินเงินทองและความรักคือ พลังแห่งใจ คือ พลังงานแห่งเสาหลักวัน เมื่อ มี โอกาส วาสนาแล้ว ถนนชีวิตจะต้องราบรื่น ดังนั้นอีกเสาหนึ่งที่ขาดไม่ได้ คือเสาถนนโชคชะตาใหญ่ 10 ปีนั่นเอง
ดังนั้นท่านที่มีความชอบเรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ย และโหราศาสตร์จีน ถามมาว่าควรทำแซกี กี่ครั้ง ซินแซขอแนะนำว่า ควรทำ 3 หลุม จนสูงสุด 6 ถึง 8 หลุม แต่อย่างน้อย ควรทำ 1 หลุมขึ้นอยู่กับ ปัจจัย ถ้าเลือก การทำ แนะนำให้นำ เสาปี มาเป็นเสาหลักในการทำแซกีเพื่อปกป้องดวงชะตา ตามหลักฮวงจุ้ยและปาจื่อ
ขอบพระคุณ ทุกท่าน ที่สนใจศาสตร์ ฮวงจุ้ย แซกี เจ่าอุ่ง
#ตงฟางซินแซนางพญาโหงวเฮ้ง