เชื่อว่าหลายคนเคยได้ไปกราบไหว้บูชาองค์พระพิฆเนศกันมาบ้างแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าทุกที่จะมีหนู ที่ถือเป็นองครักษ์ประจำกายของพระพิฆเนศ โดยมีความเชื่อกันว่าหากได้มีโอกาสเดินทางไปขอพรแล้ว จะต้องเดินมา กระซิบหูหนู เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงพรที่ขอไปอีกครั้ง ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เลือกกระซิบหูข้างซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่จะต้องนำมือมาปิดหูอีกข้างที่ไม่ได้กระซิบเอาไว้ด้วย หลังจากนั้นก็กระซิบบอกความต้องการของตัวเอง ตามที่ได้ขอไว้กับพระพิฆเนศ ถือเป็นอันเสร็จพิธี
กระซิบหูหนู เพื่อย้ำเตือนพรที่ขอไปกับพระพิฆเนศ
สำหรับที่มาของหนู ที่ทำไมจึงมีความสำคัญถึงขนาดที่เราต้องมากระซิบบอกนั้น เริ่มจากในตำนาน กาจามุกะ ปิศาจช้างที่มีรูปร่างใหญ่โต ก่อกวนความสงบของสามโลกด้วยความทระนงตนว่าได้รับพรปกป้องคุ้มครองจากเทพ ปิศาจ มนุษย์และสัตว์โลกอื่นๆ แต่ด้วยความที่ พระพิฆเนศ อยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ดำรงตนในรูปแบบของ กึ่งเทพกึ่งคชสาร (ช้าง) ทวยเทพจึงมอบหมายให้พระองค์ไปทำสงครามกับปีศาจตนนั้น
ซึ่งในระหว่างการทำสงครามกันอย่างดุเดือด พระพิฆเนศทรงหักงาข้างขวาของพระองค์แล้วใช้เป็นหอกพุ่งเข้าใส่กาจามุกะ ด้วยพลังที่รุนแรง เป็นผลให้กาจามุกะกระเด็นลงไปนอนกับพื้น และรีบจำแลงกายเป็นหนูยักษ์เพื่อจะวิ่งหนี พระพิฆเณศจึงรีบกระโดดขึ้นนั่งหลังและปราบปรามจนหนูยักษ์หมดฤทธิ์เดช พระพิฆเณศจึงใช้หนูเป็นพาหนะนับแต่นั้นมา และหนูตัวนั้นก็ได้ชื่อว่า “มุสิกะ”
รูปประกอบและเรียบเรียงโดย : Horoscope.Mthai.com