ความเชื่อ ที่เราคุ้นเคยมีอยู่หลายอย่าง ถูกสั่งสอนมานานหลายรุ่น ตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย เมื่อมีลูกมีครอบครัว ก็นำความเชื่อเหล่านี้มาใช้กับลูกของตัวเอง ซึ่งคำขู่ของคนโบราณก็คือความหวังดีต่อเรา ไม่อยากให้เราได้รับอันตรายหรือเป็นการสอนเรื่องมารยาทต่างๆทางสังคม ซึ่งถ้าเราตีความได้จะทราบถึงจุดประสงค์ที่แท้จริง และแม่หมอไม่แปลกใจเลยค่ะ ว่าทำไมคำสอนเหล่านี้ถึงยังมีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนจะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามแม่หมอมาได้เลยจ้า 🙂
1. เวลากินปลาห้ามพลิกปลา โบราณเขาถือว่าถ้าพลิกปลาแล้ว เวลานั่งเรือออกไปเรือจะล่ม ให้เลาะก้างปลา ออกแทน เรื่องของเรื่องคือ เป็นการห้ามลูกทางอ้อมว่าอย่าพลิกปลา เพราะว่า มันเป็นมารยาทที่ไม่ดีบนโต๊ะอาหาร ความเชื่อ เรื่องนี้ในปัจจุบันบางครอบครัวยังใช้กันอยู่นะจ๊ะ
2. เวลากินข้าวอย่าให้ช้อนกระทบกัน โบราณเขาถือว่า เวลา กิน ข้างแล้วช้อนกระทบกัน คือจะมีคนนำข่าวร้ายมาให้ เป็นการห้ามลูกทางอ้อม ไม่ให้ตักกับข้าวพร้อมกัน จนช้อนกระทบเสียงดัง เพราะว่าเป็นมารยาทที่ไม่ดีบนโต๊ะอาหาร
3. ห้ามร้องเพลงในครัวในขณะที่กำลังทำอาหาร โบราณเขาถือว่าอย่าร้องเพลงในครัวเดี๋ยวได้สามีแก่ เรื่องของเรื่องคือ เป็นการตัดความรำคาญ เพื่อไม่ให้แม่ครัวสาวๆสมัยนั้นร้องเพลง และสาวๆสมัยนั้น กลัวได้สามีแก่ และการร้องเพลงนั้น อาจทำให้เสียสมาธิในการทำกับข้าว ทำให้หั่น เอานิ้วตัวเองได้ หรือน้ำลายอาจจะกระเด็นใส่อาหารที่กำลังปรุงอยู่ก็ได้
4. เวลาคดข้าวอย่าเคาะหม้อ ชาติหน้าปากจะแหว่ง เพราะสมัยก่อนหม้อข้าวจะทำจากหม้อดินเมื่อเอาทัพพีหรือสารพี ไปเคาะหม้อหม้อจะบิ่น แตก ไม่น่าใช้และเป็นการสิ้นเปลืองเมื่อต้องไปซื้อหม้อดินใบใหม่ แต่ปัจจุบันแม่หมอไม่แน่ใจว่ายังมีบ้านไหนที่ใช้หม้อดินเผากันอยู่บ้าง แต่ถึงจะเป็นหม้อหุงข้าวแบบสมัยใหม่ก็ไม่ควรเคาะอยู่ดีนะคะ
5. ถ้านอนกินชาติหน้าจะเกิดเป็นงู เป็นคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ที่บอกกับเด็กว่า ถ้าหากกำลังรับประทานอาหารอยู่ ไม่ควรนอนทานไปด้วย และถ้าไม่เชื่อฟังชาติหน้าจะเกิดเป็นงู เพราะงูเวลากินเหยื่อมันก็จะกินในลักษณะท่านอน เป็นกุศโลบายที่ผู้ใหญ่ที่ต้องการสั่งสอนให้เด็กๆ นั่งกินอย่างสุภาพ มีระเบียบ เพราะถ้านอนกินแล้วเด็กๆ อาจจะสำลักอาหารได้ ผู้ใหญ่จึงใช้ลักษณะของงูมากล่าวอ้างเพื่อให้เกิดความกลัว
เรียบเรียงโดย : Horoscope.mthai.com
