การ ตากผ้า สมัยโบราณจะทำราว ตากผ้า ไว้กลางแสงแดด ผ้าที่ตากจะแห้งเร็ว คนสมัยโบราณเชื่อว่า หากปล่อยผ้าที่ตากทั้งไว้นอกชายคาเรือนหลังพระอาทิตย์ตกดิน เชื่อว่าผีจะใช้ผ้าผืนนั้นเช็ดเลือกจากปากหลังจากที่ได้กินเลือดสัตว์เลือดคนมาแล้ว ซึ่งผีที่ว่านั้นคือผีกระสือ
ไม่อยากเจออาเพศ….อย่าตากผ้าตอนกลางคืน
ผีกระสือ คือผีไทยชนิดหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าสามารถถอดหัวออกมาล่องลอยพร้อมเครื่องใน มีแสงไฟส่องเอาไว้ส่องทาง ชอบกินของสกปรกและของสดคาว เมื่อกินจนอิ่มก็จะหาบ้านที่ตากผ้าเอาไว้ตอนกลางคืนเพื่อเช็ดปาก แล้วกลับเข้าร่างอย่างเดิม เจ้าของผ้าที่มีรอยเปื้อนจากปากกระสือเมื่อสวมใส่จะเกิดอาการไม่สบายบางคน ถึงกับตายเลยที่เดียว
ดังนั้นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน คนสมัยก่อนจะรีบเก็บผ้าเข้ามาไว้ในเรือนก่อนถ้าผ้าซิ่นใดยังไม่แห้งจึงค่อยนำมาตากใหม่ในวันรุ่งขึ้น อย่างไรก็ตามอุบายโบราณนั้น หลายครั้งเรานึกดูถูกอยู่ในใจว่าเก่าแก่เหลือเกิน แต่ถ้าใช้ปัญญาในทางกว้างและมองลึกซึ่งลงไปมักพบมีภูมิปัญญาชาวบ้านที่ อธิบายได้ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ซ่อนเร้นอยู่ทั้งสิ้น รวมทั้งอุบายที่ห้ามขาดมาแต่ครั้งโบราณว่า จงอย่าตากผ้าข้ามคืนหรือในเวลากลางคืน
เหตุผลที่ 1 คือการป้องกันไม่ให้ผ้าเปื่อย ผ้าสมัยก่อนเป็นผ้าทอมาจากฝ้ายเกือบทั้งนั้น ตกกลางคืนเมื่อสัมผัสกับน้ำค้างที่มีความเค็มสูง ผ้าจะเปื่อยเร็วกว่าปกติ
เหตุผลที่ 2 คือเมื่อเรา ตากผ้า ไว้ในราว ลมจะพัดจนผ้าพลิ้วปลิวไปมา สัตว์เลี้ยงของเราโดยเฉพาะหมาก็กระโดดกัดเอาผ้าลงมาเล่น จนผ้าขาดเสียหาย
เหตุผลที่ 3 คือราวตากผ้ามักจะหลบอยู่หลังบ้านหรือในซอกในหลืบ ในเวลามืดค่ำก็เสี่ยงต่องูเงี้ยวเขี้ยวขอที่ไปแอบซ่อนตัวอยู่ ก็เลยห้ามรวมเสียเลยว่าห้ามตากผ้าข้ามคืนหรือกลางคืน
เหตุผลที่ 4 ถ้าปล่อยผ้าตากค้างคืนไว้ ผ้าอาจจะถูกน้ำค้างตอนกลางคืน ไม่แห้ง รวมถึงจะส่งกลิ่นเหม็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก ghostwiki.blogspot.com