โควิด-19 วันนี้ โควิด-19 ไทย โควิดวันนี้

โควิด-19 วันนี้ (12 มี.ค.)

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้ ภาพรวมยอดผู้ติดเชื้อลดลงจากเมื่อวานนี้ราว 1 พันกว่าราย โดย PCR +24,592 ราย / ATK +20,540 ราย รวมทั้งหมด 45,132 ราย…

Home / โควิด-19 / โควิด-19 วันนี้ (12 มี.ค.)

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้

  • ภาพรวมยอดผู้ติดเชื้อลดลงจากเมื่อวานนี้ราว 1 พันกว่าราย
  • โดย PCR +24,592 ราย / ATK +20,540 ราย รวมทั้งหมด 45,132 ราย
  • เฝ้าระวัง จ. สงขลา ที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องไม่ลดลง
  • จำนวนผู้หายป่วยในวันนี้ยังลดลง แต่ยังเกิน 2 หมื่นราย
  • จำนวนผู้ป่วยในรพ. สถานพยาบาลเพิ่มขึ้น
  • อัตราการป่วยหนัก เสียชีวิต ยังคงเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  • ย้ำ – ผู้สูงอายุอีกราว 2 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีน ควรรีบเข้ารับวัคซีนก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์นี้

ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันนี้ ( 12 มี.ค. 65 ) โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้

ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่

พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 24,592 ราย รวมสะสม 3,161,241 ราย โดยแบ่งเป็น

  • ในชุมชน 24,389 ราย
  • เรือนจำ 151 ราย
  • มาจากต่างประเทศ 52 ราย

ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจาก ATK 20,540 ราย รวม 1,077,936 ราย

แนวโน้มการพบผู้ป่วยรายใหม่จากการตรวจด้วย RT-PCR ในวันนี้ใกล้เคียงกับเมื่อวานที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มของทิศทางการติดเชื้อในขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง

ในขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจาก ATK อยู่ที่ 2 หมื่นกว่าราย ซึ่งถือว่า ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ แม้ว่าจะลดลงมาจากเมื่อวานนี้ก็ตาม

การพบผู้ป่วยในเรือนจำ – ทัณฑสถานยังใกล้เคียงเดิม โดยพบมากที่สุดที่เรือนจำในจังหวัดเชียงหใม่ 52 ราย, สมุทรปราการ 27 ราย, สระบุรี 25 ราย, กทม. 14 ราย และ ปทุมธานี 11 ราย ส่วนที่เหลือเป็นการพบต่ำกว่า 10 ราย

ภาพรวม – ยอดรวมของ PCR และ ATK ลดลงเหลือ 45,132 ราย ต่ำกว่าเมื่อวานนี้ราว 1 พันราย ทำให้แนวโน้มลดลดลงแต่ยังไม่มากนัก

10 จังหวัดที่พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่สูงสุด (PCR)

จังหวัดจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่
กรุงเทพฯ2,999
ชลบุรี1,203
นครศรีธรรมราช1,148
สมุทรปราการ1,013
นนทบุรี972
สมุทรสาคร767
ปทุมธานี718
พระนครศรีอยุธยา675
สงขลา619
นครปฐม614
ราชบุรี527

ซึ่งในขณะนี้ สถานการณ์ในนครศรีธรรมราช ยังคงสูงต่อเนื่อง แต่ที่น่ากังวลมากที่สุดในขณะนี้ คือ สงขลา เนื่องจากแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใด เช่นเดียวกับปทุมธานี, ร้อยเอ็ด, เลย และระนอง

หายป่วยจากโควิด-19/ กลับบ้าน

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ ที่หายป่วยและได้กลับบ้าน 21,371 ราย รวมสะสม 2,911,447 ราย

ในวันนี้ยอดผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 และได้กลับบ้านนั้น มีจำนวนที่ลดลงจากเมื่อวานที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ในระดับ 2 หมื่นกว่าราย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยในระดับสีเขียว คือมีอาการเบา หรือไม่มีอาการ และเข้ารักษาตัวโดยเป็นการแยกกักตัวให้ครบกำหนด

จึงทำให้แนวโน้มการหายป่วยมีความคล้ายกับการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ (PCR) ในช่วงก่อนหน้านี้

ซึ่งยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 2 วันนี้ มีจำนวนสูงกว่ายอดผู้หายป่วยอีกครั้ง ทำให้อัตราการครองเตียงกลับมาสูงขึ้น โดยมีผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวอยู่จำนวน 226,151 ราย แบ่งเป็น

  • โรงพยาบาล 66,089 ราย
  • โรงพยาบาลสนาม 59,984 ราย
  • แยกกักตัวที่บ้าน/ชุมชน 98,756 ราย
  • อื่น ๆ 1,322 ราย

ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต

จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันนี้ มีจำนวน 68 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 23,643 ราย

หลังจากที่ยอดผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้ลดลงไปเหลือ 64 ราย วันนี้ยอดเด้งกลับมาอยู่ที่เกือบ 70 รายอีกครั้ง ทำให้แนวโน้มการเสียชีวิตจากโควิด-19 ยังคงเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ไม่พุ่งตามยอดผู้ป่วยรายใหม่ก็ตาม

แต่ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มผู้สูงอายุเช่นเดิม ซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตมาโดยตลอด นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 และในขณะนี้ ยังมีผู้สูงอายุอีกราว 2 ล้านคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เลย จึงมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต ดังนั้นจึงควรรีบเข้ารับวัคซีนเพื่อป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิต

โดยจำนวนผู้ป่วยอาการหนักในวันนี้ เพิ่มขึ้นอีก 57 รายรวมเป็น 1,312 ราย และผู้ป่วยที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้น 20 ราย รวมเป็น 435 ราย

แนวโน้มยังคงเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิต โดยไม่พุ่งสูงเหมือนอัตราการติดเชื้อ ดังนั้นจึงสะท้อนให้เห็นว่า การได้รับวัคซีนที่ครอบคลุม และครบถ้วน จะช่วยลดอัตราการป่วยหนัก และเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ดี

ดังนั้น ผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีน จึงควรรีบเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากการระบาดที่ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในระดับที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงในเดือนหน้าจะถึงเทศกาลสงกรานต์ ที่จะมีการเดินทาง การทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะส่งผลมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นด้วย