สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้
- สถานการณ์ในขณะนี้ ยอดผู้ป่วยกำลังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
- จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 จาก PCR และ ATK เพิ่มขึ้น รวมทั้งสองส่วนนี้ แตะระดับ 13,000 กว่าราย
- หลายจังหวัด โน้มการพบกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- ยอดผู้หายป่วยลดลง แต่แนวโน้มยังคงเป็นไปในทิศทางที่หายเพิ่มขึ้น
- ยอดผู้เสียชีวิตวันนี้ 21 ราย แนวโน้มทรงตัวในระดับที่สูงกว่าเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา
…
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันนี้ ( 3 ก.พ. 65 ) โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้
ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่
พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 9,172 ราย รวมสะสม 2,465,723 ราย โดยอัตราการติดเชื้อ 12.6% ใน สำหรับการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้แบ่งเป็น
- ผู้ติดเชื้อในชุมชน 8,889 ราย
- ในเรือนจำ 61 ราย
- มาจากตปท. 222 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจ ATK 4,012 ราย รวมสะสมทั้งหมด 446,811 ราย
ยอดผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ในวันนี้ มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเกิน 9 พันรายเป็นครั้งแรกสำหรับการระบาดในระลอกใหม่ เดือน ม.ค. 65 และแนวโน้มการติดเชื้อโควิด-19 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วันแล้ว
และคาดว่า น่าจะยังคงเป็นไปในทิศทางที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากเทศกาลตรุษจีนที่มีการเดินทาง รวมกลุ่ม และทำกิจกรรมร่วมกันด้วย
กรุงเทพฯ – ปริมณฑล
กรุงเทพฯ ยังทรงตัวที่ระดับหนึ่งพันกว่าราย โดยวันนี้ พบเพิ่ม 1,435 ราย ในขณะที่สมุทรปราการ ทิศทางยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร ภาพรวมยังคงทรงตัวในช่วง 7 วันล่าสุด ส่วนนครปฐมเริ่มขยับเพิ่มอีกครั้ง
ต่างจังหวัด
สถานการณ์โควิด-19 ในหลายจังหวัดเริ่มกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง เช่น
- มหาสารคาม +193 ราย เพิ่มสูงขึ้นเป็นวันที่ 2 แล้ว และอยู่ในระดับที่สูงกว่าเมื่อช่วง 7 วันก่อนหน้านี้
- สุพรรณบุรี +152 ราย เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
- ร้อยเอ็ด +173 ราย เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้เกือบเท่าตัว
- ระยอง +175 ราย จากยอดเมื่อวานนี้เกือบเท่าตัวเช่นกัน
ซึ่งยังคงมีอีกหลายจังหวัดที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และกราฟเป็นไปในทิศทางที่กำลังจะเพิ่มสูงขึ้น ทั้งที่พุ่งสูงขึ้น เช่น แพร่ ตาก อุดรฯ น่าน เพชรบุรี พิษณุโลก นครนายก
ในขณะที่บางจังหวัดเช่น กาญจนบุรี เชียงใหม่ ทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลายวัน และไม่มีแนวโน้มลดลงแต่อย่างใด
สถานการณ์ภาพรวมในขณะนี้ จำนวนการพบผู้ป่วยรายใหม่ กำลังเป็นไปในทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง และมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางของเส้นสีเขียว ที่คาดการไว้ หากมีการติดเชื้อระดับปานกลาง และมีการรักษามาตรการที่เคร่งครัด
…
หายป่วยจากโควิด-19/ กลับบ้าน
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ ที่หายป่วยและได้กลับบ้าน 7,832 ราย รวมสะสม 2,359,082 ราย
จำนวนผู้ที่หายป่วยจากโควิด-19 และได้กลับบ้านวันนี้ ลดลงจากเมื่อวานที่ผ่านมา และต่ำกว่าระดับ 8 พันราย แต่แนวโน้มการหายป่วยยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกับอัตราการพบผู้ป่วยรายใหม่ ในช่วงที่ผ่านมา
เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง และมีอาการเบา โดยเฉพาะในกลุ่มวัยทำงาน กลุ่มผู้ป่วยที่มีอายุน้อย ดังนั้นเมื่อครบกำหนดการแยกกักตัว ก็จะได้กลับบ้านตามกำหนด
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ยอดผู้ป่วยโควิด-19รายใหม่ ยังคงเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ยอดผู้ป่วยรายใหม่ ยังสูงกว่าผู้ที่หายป่วยและได้กลับ้าน ทำให้ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในขณะนี้ ยังคงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งในขณะนี้ ยอดผู้ป่วยกำลังเป็นไปในทิศทางที่พบเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าในช่วงหลังช่วงตรุษจีนนี้ น่าจะยังคงเพิ่มขึ้นอีก จึงต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง
ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันนี้ มีจำนวน 21 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22,228 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตในวันนี้ ยังใกล้เคียงกับเมื่อวานที่ผ่านมา และทำให้แนวโน้มการเสียชีวิตเริ่มขยับเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเดือน ม.ค. 65 ที่ผ่านมา
โดยค่าเฉลี่ยจำนวนผู้เสียชีวิตของเดือน ม.ค. 65 อยู่ที่ราว 15 ราย/วัน ส่วน 3 วันแรกของเดือน ก.พ. 65 เฉลี่ยอยู่ที่ 18 ราย/วัน
ส่วนใหญ่ของผู้เสียชีวิตยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยงเดิม คือ ผู้สูงอายุ และกลุ่มโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
ซึ่งในขณะนี้ยังคงมีกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะในเข็มแรก จึงทำให้กลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตได้มากกว่า
ภาพรวมในขณะนี้ แนวโน้มการพบผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ที่กว่า 50 ราย/วัน เนื่องจากวัคซีนที่มีการฉีดให้กับประชาชนได้ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการฉีดกระตุ้นในเข็มที่ 3 ด้วย
สำหรับยอดผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนัก – ปอดอักเสบในวันนี้ อยู่ที่ 517 ราย ลดลง 7 ราย ส่วนยอดผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เพิ่มขึ้น 4 ราย รวม 107 ราย
แนวโน้มการป่วยหนักยังคงเป็นไปในทิศทางที่ทรงตัวต่อเนื่อง
