สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้
- ภาพรวมวันนี้ ลดลง แต่ยังทรงตัวในระดับเกือบ 1 หมื่นราย สำหรับยอดผู้ป่วยจาก PCR รวมกับยอด ATK
- โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่วันนี้ลดลง เหลือ 7 พันกว่าราย ในขณะที่ยอด ATK ยังทรงตัวที่ระดับ 2 พันราย
- จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายป่วยและได้กลับบ้านมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 9 พันราย สูงสุดในรอบ 90 วัน
- ยอดการเสียชีวิตลดลงจากเมื่อวานที่ผ่านมา ภาพรวมทรงตัวที่ระดับต่ำกว่า 20 กว่าราย/วัน
- อัตราการป่วยหนัก-ใช้ท่อช่วยหายใจทรงตัว
…
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันนี้ ( 1 ก.พ. 65 ) โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้
ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่
พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 7,422 ราย รวมสะสม 2,447,964 ราย โดยอัตราการติดเชื้อ 10.86% ในขณะนี้มีแนวโน้มทรงตัว สำหรับการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้แบ่งเป็น
- ผู้ติดเชื้อในชุมชน 7,133 ราย
- ในเรือนจำ 28 ราย
- มาจากตปท. 261 ราย
ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจ ATK 2,014 ราย รวมสะสมทั้งหมด 440,150 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 จากการตรวจด้วย PCR มีจำนวนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 7 พันกว่า หลังจากที่ขึ้นเกิน 8 พันรายต่อเนื่องมาเป็นเวลา 5 วัน ซึ่งทำใหแนวโน้มยังคงทรงตัว – ขยับเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย ในช่วง 6 วันที่ผ่านมา
ส่วนยอดจาก ATK ยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกิน 2 พันราย และแกว่งตัวในระดับ 2-3 พันรายต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 กว่าวันแล้ว ทำให้ภาพรวมทั้ง PCR และ ATK ยังทรงตัวอยู่ที่ราว 1 หมื่นราย/วัน
กรุงเทพฯ – ปริมณฑล
ในวันนี้ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในกรุงเทพฯ พบเพิ่ม 1,254 ราย ยังคงทางตัวอยู่ที่ระดับ 1 พันกว่ารายต่อเนื่องเป็นวันที่ 13 แล้ว เป็นไปในทิศทางที่ทรงตัวเช่นกัน ส่วนนนทบุรี สมุทรปราการ ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะนนทบุรี ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 แล้ว ในขณะที่นครปฐม ปทุมธานี สมุทรสาคร แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง
ต่างจังหวัด
สถานการณ์ในวันนี้ หลายจังหวัดยอดลดลงเป็นส่วนใหญ่ มีบางจังหวัดที่พบผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นค่อนข้างมาก เช่น
- อุตรดิตถ์ พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 30 ราย จากที่เมื่อวานรายงานพบเพียง 8 รายเท่านั้น
- ชัยนาท พบเพิ่มอีก 38 ราย จากเมื่อวานที่พบเพียง 14 ราย
- ตราด พบเพิ่มอีก 21 ราย จากเมื่อวานนี้ที่พบเพียง 5 ราย
ทำให้ภาพรวมสถานการณ์ในขณะนี้ ทรงตัว จากการพบผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยวิธี PCR อยู่ในระดับเฉลี่ยราว 7,800 ราย/วัน ในขณะที่ยอด ATK ก็อยู่ราว 2-3 พันราย/วัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามในช่วงหลังตรุษจีนอีกครั้งว่า จะมีจำนวนผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นหรือไม่
…
หายป่วยจากโควิด-19/ กลับบ้าน
ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ ที่หายป่วยและได้กลับบ้าน 8,715 ราย รวมสะสม 2,342,765 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่หายป่วยและได้กลับบ้านในวันนี้ มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานที่ผ่านมา และสูงที่สุดในรอบ 90 วัน ซึ่งแนวโน้มอัตราการหายป่วยก็มีทิศทางที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ภาพรวมยังทรงตัวและเป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดการพบผู้ป่วยรายใหม่
โดยคาดว่า สาเหตุมาจากการที่ผู้ป่วยโควิด-19 ในระลอกเดือนมกราคม 2565 นี้ เป็นผู้ป่วยที่มีอาการในระดับสีเขียว เป็นส่วนใหญ่ เมื่อครบกำหนดการแยกกักตัว ก็สามารถกลับบ้านได้ จำทำให้ยอดเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการพบผู้ป่วยรายใหม่
และจากยอดผู้หายป่วยในวันนี้ มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในสถานบริการ-โรงพยาบาล มีจำนวนลดลง โดยยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่อีก 83,014 ราย
ภาพรวมของผู้ป่วยโควิด-19 ที่เข้ารักษาตัวในระบบบริการ มีทิศทางที่ทรงตัว
ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต
จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันนี้ มีจำนวน 12 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22,185 ราย
ลดลงจากเมื่อวานนี้ 4 ราย ซึ่งแนวโน้มยังเป็นไปในทิศทางที่ทรงตัวในระดับ 10 กว่ารายต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แม้จะมีขยับเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา แต่ค่าเฉลี่ยในรอบ 7 วันยังคงอยู่ที่ 18 ราย/วัน
ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมจำนวนประชากรส่วนใหญ่ ได้รับวัคซีนแล้ว จึงทำให้อัตรากรป่วยหนัก และการเสียชีวิตลดลงอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีอีกหลายจังหวัดที่ยังคงมีอัตราการฉีดวัคซีนที่ต่ำกว่า 60% ของประชากร รวมถึงในกลุ่มเสี่ยงเช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยหนักและเสียชีวิตได้ หากติดเชื้อโควิด-19
ภาพรวมในอัตราการเสียชีวิตถือว่า ต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การเข้ารับการฉีดวัคซีนจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะป้องกันการป่วยหนัก หรือเสียชีวิตได้
สำหรับจำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่ยังคงเข้ารับการรักษาตัวอยู่นั้น เพิ่มขึ้นอีก 15 ราย จากภาวะปอดอักเสบ รวมผู้ป่วยอาการหนักในขณะนี้ 557 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น 1 ราย รวม 107 ราย ซึ่งแนวโน้มการพบผู้ป่วยอาการหนัก-ใส่ท่อช่วยหายใจยังทรงตัว และมีแนวโน้มขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ดังนั้นจึงเน้นย้ำการเข้ารับการฉีดวัคซีนทั้งในเข็มกระตุ้น และสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันการป่วยหนัก หรือ เสียชีวิต จึงเป็นสิ่งจำเป็น