โควิด-19 วันนี้ โควิด-19 ไทย โควิดวันนี้

สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ ( 23 ม.ค.) PCR ลดลง / ATK ทรงตัว

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้ ยอดผู้ป่วยโควิด-19 จากการตรวจด้วย PCR ลดลงต่ำกว่า 8 พันราย ส่วนยอดผู้เข้าข่ายติดโควิด-19 จาก ATK ยังใกล้เคียงเมื่อวานที่ผ่านมา กทม. ปริมณฑล ยังทรงตัวตัวในระดับที่สูงกว่าสัปดาห์ก่อน ควรระมัดระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึง…

Home / โควิด-19 / สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ ( 23 ม.ค.) PCR ลดลง / ATK ทรงตัว

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้

  • ยอดผู้ป่วยโควิด-19 จากการตรวจด้วย PCR ลดลงต่ำกว่า 8 พันราย
  • ส่วนยอดผู้เข้าข่ายติดโควิด-19 จาก ATK ยังใกล้เคียงเมื่อวานที่ผ่านมา
  • กทม. ปริมณฑล ยังทรงตัวตัวในระดับที่สูงกว่าสัปดาห์ก่อน
  • ควรระมัดระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึง หากมีการร่วมกลุ่ม, รวมตัวกัน โดยเฉพาะการทำกิจกรรมร่วมกับผู้สูงอายุ, ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือ ไปเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง
  • ยอดผู้ที่หายป่วยเพิ่มสูงขึ้นใกล้เคียงกับจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ ทำให้ยอดการรักษาตัวในสถานบริการชะลอตัว
  • ยอดผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ยังทรงตัวระดับ 10 กว่าราย
  • จำนวนผู้ป่วยอาการหนัก-ใช้ท่อช่วยหายใจ แนวโน้มทรงตัว มีขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันนี้ ( 23 ม.ค. 65 ) โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้

ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่

พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 7,686 ราย รวมสะสม 2,377,500 ราย โดยอัตราการติดเชื้อ 9.45% ในขณะนี้มีแนวโน้มลดลง สำหรับการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้ เป็น

  • ผู้ติดเชื้อในชุมชน 7,445 ราย
  • ในเรือนจำ 55 ราย
  • มาจากตปท. 186 ราย

ยอดผู้เข้าข่ายติดเชื้อจาก ATK 2,074 ราย รวมสะสม 418,368 ราย

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในวันนี้ ลดลงจากเมื่อวานที่ผ่านมา ลงมาอยู่ที่ระดับ 7 พันกว่ารายอีกครั้ง และแนวโน้มของการพบผู้ป่วยรายใหม่ ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ทรงตัว-ลดลงเล็กน้อย

แต่สถานการณ์กรุงเทพฯ ยังคงแนะนำให้ยกการ์ดสูง และเฝ้าระวังตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะจำนวนผู้ป่วยยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 1 พันรายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว แม้ว่ายอดผู้ป่วยรายใหม่ในกรุงเทพฯ จะใกล้เคียงกันระหว่างเมื่อวานและวันนี้ ส่วนจังหวัดในปริมณฑลอื่น ๆ ยังคงมีแนวโน้มที่ทรงตัวเช่นกัน และยังคงต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

พื้นที่เฝ้าระวังเนื่องจากมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือแนวโน้มทรงตัวในระดับที่สูงกว่าสัปดาห์ก่อน เช่น

  • ชัยภูมิในช่วง 4 วันนี้มีแนวโน้มขยับเพิ่มสูงขึ้นและในวันนี้ พบเพิ่มอีก 117 ราย
  • ลพบุรี ยังทรงตัวอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่าน

สำหรับยอดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ที่พบในเรือนจำวันนี้ ลดลงเหลือ 55 ราย จากเมื่อวานที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 154 ราย

หายป่วยจากโควิด-19/ กลับบ้าน

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ ที่หายป่วยและได้กลับบ้าน 7,445 ราย รวมสะสม 2,272,009 ราย

แนวโน้มของการหายป่วยของผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ที่พ้นระยะการแยกกักตัว ยังคงอยู่ในระดับที่ใกลเ้คียงกับเมื่อวานที่ผ่านมา แนวโน้มของการหายป่วยและได้กลับบ้านยังคงเป็นไปในทิศทางที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งจากการที่ผู้ป่วยมีอาการเบา หรือไม่มีอาการเป็นส่วนใหญ่

ซึ่งยอดการพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในวันนี้ มีจำนวนที่สูงกว่าจำนวนผู้ที่หายป่วยและได้กลับบ้าน แต่ไม่มากนัก ทำให้อัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลมีแนวโน้มที่ชะลอตัวลง ไม่เพิ่มสูงขึ้นเหมือนเช่นที่ผ่านมา โดยมีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ 83,459 ราย

ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต

จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันนี้ มีจำนวน 13 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 22,032 ราย แนวโน้มผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับที่ทรงตัวราว 10 กว่ารายต่อเนื่อง มีอัตราการป่วยตายอยู่ที่ 0.11 – 0.28% มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมกราคม 2565

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเดินหน้าฉีดวัคซีนกระตุ้นในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มโรคเรื้อรัง ทำให้สามารถช่วยลดอัตราการป่วยตายได้ทันในช่วงของการระบาดที่เกิดขึ้นในระลอกเดือน ม.ค.65 นี้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังคงมีผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือ กลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีนกระตุ้น อยู่อีกจำนวนมาก ดังนั้นแม้ว่าโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะมีอาการเบา แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงต่อการป่วยหนัก หรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยในกลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ที่ไม่มีประวัติการเข้ารับวัคซีน หรือ ได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือครบ 2 โดสเกิน 4 เดือนขึ้นไป

โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงควรที่จะระมัดระวังในการรวมกลุ่ม, รวมตัวกันในช่วงกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะการที่มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือการไปเยี่ยมเยียนผู้ป่วยติดเตียง ด้วยการยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดให้มากขึ้น

สำหรับผู้ป่วยอาการหนักในวันนี้ ลดลง 1 ราย รวมสะสมในขณะนี้ 564 ราย ส่วนผู้ป่วยที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ มีจำนวน 122 ราย (ลดลง 7 ราย)