โควิด-19 วันนี้ โควิด-19 ไทย โควิดวันนี้

ประเมินสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (18 ม.ค.) ดีขึ้น หายป่วยมากกว่าติดเชื้อ

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้ ยอดผู้ป่วยรายใหม่จาก PCR ลดลง และต่ำกว่ายอดผู้หายป่วยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาดในระลอกใหม่ ทำให้ยอดผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัว ลดลงเช่นกัน คาดว่า อัตราการหายป่วยจะขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หากไม่มีการพบคลัสเตอร์ใหญ่ ระบาดเพิ่มเติม จำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้เพิ่มขึ้น 5 รายเป็น 18…

Home / โควิด-19 / ประเมินสถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (18 ม.ค.) ดีขึ้น หายป่วยมากกว่าติดเชื้อ

สถานการณ์ภาพรวมในวันนี้

  • ยอดผู้ป่วยรายใหม่จาก PCR ลดลง และต่ำกว่ายอดผู้หายป่วยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาดในระลอกใหม่ ทำให้ยอดผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัว ลดลงเช่นกัน
  • คาดว่า อัตราการหายป่วยจะขยับเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง หากไม่มีการพบคลัสเตอร์ใหญ่ ระบาดเพิ่มเติม
  • จำนวนผู้เสียชีวิตวันนี้เพิ่มขึ้น 5 รายเป็น 18 ราย แต่ยังคงทรงอยู่ในระดับ 1x ราย
  • อัตราการป่วยหนัก-ใช้ท่อช่วยหายใจ แนวโน้มยังทรงตัว และขยับตัวขึ้นเล็กน้อย
  • ยังคงต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อเช้าสู่กลุ่มผู้สูงอายุ – ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือ ครบ 2 โดสนานเกิน 4 เดือน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการป่วยหนัก-เสียชีวิตได้

ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวันนี้ ( 17 ม.ค. 65 ) โดยยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้

ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่

พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 6,397 ราย รวมสะสม 2,337,811 ราย โดยอัตราการติดเชื้อ 9.22% ในขณะนี้มีแนวโน้มลดลง สำหรับการพบผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้ เป็น

  • ผู้ติดเชื้อในชุมชน 6,222 ราย
  • ในเรือนจำ 10 ราย
  • มาจากตปท. 209 ราย

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายจากการตรวจ ATK 1,880 ราย รวมสะสมทั้งหมด 406,674 ราย

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 จากการตรวจด้วยวิธี PCR ในวันนี้ ลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ลงมาเหลือระดับ 6 พันกว่าราย จากเมื่อวานที่พบอยู่ในระดับเกือบ 7 พันราย ในขณะที่ยอดผู้ที่เข้าข่ายติดเชื้อจาก ATK ก็ลดลงเช่นกัน ทำให้สถานการณ์ในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น อัตราการติดเชื้อลดลง

ซึ่งพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น

หายป่วยจากโควิด-19/ กลับบ้าน

ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ในวันนี้ ที่หายป่วยและได้กลับบ้าน 6,637 ราย รวมสะสม 2,233,903 ราย

อย่างที่ได้รายงานไปก่อนหน้านี้ จากการที่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการเบา การรักษาจึงเป็นการเข้ามาแยกกักตัว และผู้ป่วยอาการเบา ซึ่งทั้งสองกลุ่ม ส่วนใหญ่เมื่อครบระยะเวลาราว 14 วันก็จะหายป่วยและกลับบ้านได้

ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อในช่วงปีใหม่ ก็จะเริ่มทยอยหายป่วยและได้กลับบ้านเพิ่มขึ้น ในช่วงหลังวันที่ 14 ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในวันนี้ มียอดผู้ป่วยที่หายป่วยและได้กลับบ้าน สูงกว่ายอดผู้ป่วยรายใหม่ ถือเป็นสัญญาณที่ดี

และจากจำนวนผู้ที่หายป่วยและได้กลับบ้านมากขึ้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวอยู่เริ่มลดลง แต่ยังไม่มากนักโดยในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ในระบบบริการอีก 81,952 ราย

– อยู่ใน รพ. 40,387 ราย
– รพ.สนาม 30,321 ราย
– Home Isolation + Community Isolation 10,745 ราย
– อื่น ๆ 499 ราย

ซึ่งการเข้ารับการรักษาตัวส่วนใหญ่ในขณะนี้ ยังคงเป็นการเข้ารับการรักษาในสถานบริการเช่น โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เป็นหลัก แต่ในวันนี้ยอดใน รพ. นั้นลดลงเกือบ 5 พันราย ส่วนยอดการแยกกักที่บ้าน, ชุมชน ขยับเพิ่มสูงขึ้น แสดงถึงผู้ป่วยที่มีอาการเบา-ไม่มีอาการเป็นส่วนใหญ่

ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต

จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 วันนี้ มีจำนวน 18 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 21,956 ราย โดยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้ 5 ราย แต่ยังคงอยู่ในระดับ 10 กว่าราย และเป็นแนวโน้มที่ค่อนข้างทรงตัวอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ศบค. ได้แถลงรายงานการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยจำนวน 2 ราย ซึ่งรายแรกเป็นหญิง อายุ 86 ปี ซึ่งรายมีการรายงานไปก่อนหน้านี้ แล้ว ส่วนอีกรายหนึ่ง เป็นหญิง อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย

โดยทั้งสองรายนี้ เป็นผู้ป่วยติดเตียง-ที่อาศัยอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกไปสถานที่เสี่ยงใดๆ แต่การติดเชื้อเกิดจากการที่บุคคลใกล้ชิดนำเชื้อเข้ามาติดยังผู้ป่วยทั้งสองราย

ในขณะที่ผู้เสียชีวิตในขณะนี้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยงเดิม คือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ดังนั้นการที่เชื้อแพร่เข้าสู่กลุ่มนี้ได้ ก็จะมีความเสี่ยงในการป่วยหนักและเสียชีวิต และหากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันด้วย ยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น

สำหรับผู้ป่วยอาการหนักในวันนี้ เพิ่มขึ้น 1 ราย รวมเป็น 534 ราย ในขณะที่ผู้ป่วยที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นอีก 6 ราย รวมเป็น 114 ราย

แนวโน้มการพบผู้ป่วยอาการหนัก และใช้ท่อช่วยหายใจเริ่มขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น