ประเด็นสำคัญ
- ผลการประชุมศบค. วันนี้มีมติ ยกระดับมาตรการเพิ่มเติม โดยกำหนดพื้นที่ควบคุมเพิ่มเติมเป็น 69 จังหวัด (ทุกจังหวัดยกเว้น กรุงเทพฯ กาญจนบุรี กระบี่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และภูเก็ต)
- เลื่อนการเปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ ออกไป แต่ให้สามารถขออนุญาตปรับเปลี่ยนเป็นจำหน่ายอาหารได้ตามข้อกำหนด แต่หากพบฝ่าฝืนดำเนินคดีตามกฎหมาย
- ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด อนุญาตให้จำหน่ายสุราในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น.
- ระงับการเข้าประเทศในรูปแบบ Test & Go สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ามาหลัง 15 ม.ค. เป็นต้นไป และเลื่อนการเปิดรับลงทะเบียนไปก่อน
- เพิ่มพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (Sandbox) ใน 3 จังหวัด ส่วนอีก 8 จังหวัดตามแผนเดิมเลื่อนออกไปก่อน
- มาตรการที่ประกาศจะเริ่มมีผลตั้งแต่ 9 มกราคม 2565 นี้เป็นต้นไป
ผลการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ในวันนี้ ( 7 ม.ค.) โดยปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ โดยเพิ่มจังหวัดในพื้นที่ควบคุม หรือ พื้นที่สีส้ม เพิ่มขึ้นเป็น 69 จังหวัด และยังคงไม่มีการยกระดับพื้นที่สีแดง หรือสีแดงเข้มแต่อย่างใด ประกอบไปด้วย
รายชื่อจังหวัด | ||
---|---|---|
กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ชัยนาท ชัยภูมิ เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครปฐม นครพนม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ | ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน | เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุดรธานี อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และ อุบลราชธานี |
สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ยังคงอยู่ที่ 8 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี กระบี่ นนทบุรี ปทุมธานี พังงา และภูเก็ต
มาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 (ทั่วไป)
สำหรับมาตรการได้มีการอนุมัติให้ปรับขยายเวลามาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติม โดยประกอบไปด้วย
- ขยายระยะเวลาการทำงานที่บ้านออกไปอีกจนถึงวันที่ 31 ม.ค. 2565
- สถานบริการ, สถานบันเทิง ผับ, บาร์, คาราโอเกะ ให้เปิดในรูปแบบร้านอาหารได้เท่านั้น โดยต้องได้รับอนุญาติจากคณะกรรมการควบคุมโรค ก่อนวันที่ 15 ม.ค. และเปิดให้บริการได้ 16 ม.ค. แต่ยังคงระงับการเปิดให้บริการในรูปแบบปรกติ
- ในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัดสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ ไม่เกิน 21.00 น. ในร้านที่ผ่าน SHA+ หรือ Thai Stop covid 2 Plus เท่านั้น
โดยเฉพาะในกลุ่มสถานบริการ ร้านอาหารกึ่งผับ บาร์ ต่าง ๆ ในช่วงที่ผ่านมาพบว่า มีการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด โดยขอเปิดขายอาหาร แต่เมื่อเปิดให้บริการจริง กลับมีการแอบจำหน่ายสุรา และไม่ปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ จนนำไปสู่การระบาดเกิดขึ้นในหลายพื้นที่
ดังนั้นในมาตรการที่เกิดขึ้นจะมีการกำชับให้ทางจังหวัดตรวจสอบการให้บริการอย่างเคร่งครัด และหากพบว่า มีการฝ่าฝืนจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ส่วนกรณีที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้มีการประกาศยกระดับเตือนภัยจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 นั้นเพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้ประชาชนได้ตื่นตัวและระวังป้องกันตัวเอง จากการระบาดที่เกิดขึ้น ซึ่งกรณีของการเดินทางข้ามจังหวัดนั้น ถือเป็นการขอความร่วมมือจากการประกาศของทางกระทรวงสาธารณสุข ในการงด หรือ เลี่ยงการเดินทางโดยไม่จำเป็น
แต่ทางศบค. ยังไม่มีคำสั่งระงับการเดินทาง หรือคำสั่งห้ามบินแต่อย่างใด ยังมีให้บริการได้ตามปรกติ เพียงแต่ขอความร่วมมือในการงด-เลี่ยงการเดินทาง ตามคำเตือนของกระทรวงสาธารณสุข
มาตรการเข้าประเทศ
- ยกเลิกการกำหนดประเทศกลุ่มเสี่ยงในการเข้าราชอาณาจักร สำหรับประเทศในทวีปแอฟริกาทั้งหมด รวมถึง 8 ประเทศในแอฟริกาใต้ ให้เดินทางเข้ามาได้ตามข้อกำหนดรูปแบบการเดินทาง
- เปิดรับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ ในโครงการพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (Sandbox ) ใน จังหวัดพังงา กระบี่ และสุราษฯ (เฉพาะเกาะสมุย, เกาะต่าง และเกาะพงัน) โดยผู้โดยเดินจะต้องรับผิดชอบค่าที่พัก สำหรับกักตัว 7 วัน และค่าตรวจ PCR รวม 2 ครั้ง
- พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวใน 26 จังหวัด / พื้นที่ ให้ดำเนินการได้โดยใช้มาตรการเช่นเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง เพิ่มมาตรการบริโภคสุราในร้าน
- เลื่อนการเปิดพื้นที่นำร่องท่องเที่ยวระยะที่ 3 ใน 5 จังหวัดคือ ตราด (อ.คลองใหญ่), สระแก้ว (อ.เมือง, อรัญประเทศ), มุกดาหาร (อ.เมือง), บึงกาฬ และ อุบลราชธานี (อ.เมือง,สิรินธร)
- ระงับการเดินทางแบบ Test & Go โดยจะมีการประเมินสถานการณ์และพิจารณาอีกครั้ง
- ระงับการเดินทางในระบบ Test & Go สำหรับผู้ที่ได้รับอนุนมัติให้เข้ามาหลัง 15 ม.ค.