โควิด-19

จีนเร่งพัฒนา ‘ยา’ รักษาโควิด-19 พบลดป่วยรุนแรง-เสียชีวิต 78%

ปัจจุบันคณะนักวิทยาศาสตร์จีนกำลังเร่งพัฒนายารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะประชาคมโลกยังคงเผชิญการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 มหาวิทยาลัยชิงหัว โรงพยาบาลประชาชนเซินเจิ้นหมายเลข 3 และบีอาร์ไอไอ ไบโอไซเอนซ์ (Brii Biosciences) ร่วมพัฒนาการรักษาแบบค็อกเทลแอนติบอดี โดยใช้โมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่มีชื่อว่าบีอาร์ไอไอ-196…

Home / โควิด-19 / จีนเร่งพัฒนา ‘ยา’ รักษาโควิด-19 พบลดป่วยรุนแรง-เสียชีวิต 78%

ปัจจุบันคณะนักวิทยาศาสตร์จีนกำลังเร่งพัฒนายารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ขณะประชาคมโลกยังคงเผชิญการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19

มหาวิทยาลัยชิงหัว โรงพยาบาลประชาชนเซินเจิ้นหมายเลข 3 และบีอาร์ไอไอ ไบโอไซเอนซ์ (Brii Biosciences) ร่วมพัฒนาการรักษาแบบค็อกเทลแอนติบอดี โดยใช้โมโนโคลนอลแอนติบอดี (monoclonal antibody) ที่มีชื่อว่าบีอาร์ไอไอ-196 (BRII-196) และบีอาร์ไอไอ-198 (BRII-198) ซึ่งสกัดมาจากแอนติบอดีของผู้หายป่วยจากโรคโควิด-19

รายงานระบุว่าขณะนี้การรักษาแบบค็อกเทลแอนติบอดีอยู่ระหว่างการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ใน 7 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ บราซิล และฟิลิปปินส์

“ยาบีอาร์ไอไอ-196/บีอาร์ไอไอ-198 ถูกใช้รักษาทางคลินิคในกลุ่มผู้ป่วยมากกว่า 700 รายในจีน ข้อมูลการทดลองทางคลินิกทั้งในและต่างประเทศบ่งชี้ว่ามันสามารถลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตถึงร้อยละ 78” จางหลินฉี ศาสตราจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ กล่าว

ทีมวิจัยยื่นคำร้องต่อสำนักงานบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติจีน (NMPA) เพื่อขออนุมัติวางจำหน่ายยาดังกล่าวในตลาดแบบมีเงื่อนไข เมื่อวันที่ 9 ต.ค.

ทั้งนี้ จีนกำหนดแนวทางเทคนิค 3 ประการ สำหรับการพัฒนายารักษาโรคโควิด-19 โดยมุ่งเน้นการสกัดกั้นเชื้อไวรัสฯ เข้าสู่เซลล์ ยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัสฯ และกำกับดูแลระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์

ส่วนดีเอ็กซ์พี-604 (DXP-604) ยาแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ไวรัสตัวใหม่ ได้รับการอนุมัติใช้งานที่โรงพยาบาลปักกิ่งตี้ถานเพื่อบรรเทาอาการป่วย ซึ่งเป็นทางเลือกรักษาผู้ป่วยที่เผชิญภาวะคุกคามถึงชีวิตโดยใช้ผลิตภัณฑ์การแพทย์นอกการทดลองทางคลินิกเมื่อไม่มีตัวเลือกการรักษาอื่น

ตัวยาข้างต้นเป็นฝีมือการพัฒนาร่วมระหว่างซิงโกลมิกส์ ไบโอฟาร์มาซูติคัลส์ (Singlomics Biopharmaceuticals) และทีมที่นำโดยเซี่ยเสี่ยวเลี่ยง ศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยปักกิ่ง


ที่มา – ซินหัว