ประเด็นสำคัญ
- ศาลสหรัฐฯ ระงับคำสั่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นการชั่วคราว
- หลังมีกำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 ในบริษัทขนาดใหญ่
- โดยกำหนดให้ต้องมีการฉีดวัคซีน หรือ ต้องตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์ และสวมใส่หน้ากากอนามัย
…
ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำตัดสินให้ระงับคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นการชั่วคราว โดยคำสั่งนี้ของไบเดนกำหนดให้ลูกจ้างของบริษัทขนาดใหญ่ต้องฉีดวัคซีน หรือเข้ารับการตรวจเชื้อบ่อยครั้ง
คำสั่งบังคับฉีดวัคซีนหรือตรวจเชื้อข้างต้น กำหนดให้พนักงานของบริษัทที่มีพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จนครบโดส ภายในวันที่ 4 ม.ค. 2022 โดยพนักงานที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหลังจากวันที่กำหนด จะต้องส่งผลการทดสอบเชื้อโควิด-19 ที่เป็นลบทุกสัปดาห์ เพื่อสามารถเข้าสู่สถานที่ทำงานได้ และตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เป็นต้นไป ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจำเป็นต้องสวมหน้ากากขณะอยู่ภายในอาคารของสถานที่ทำงาน
คำตัดสินของศาลซึ่งออกโดยผู้พิพากษาสามคนจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน ให้เหตุผลว่า “คำสั่งนี้มีข้อกังวลร้ายแรงด้านกฎหมายและรัฐธรรมนูญ” และสั่งระงับคำสั่งดังกล่าวไว้ก่อนระหว่างรอศาลฯ การดำเนินการเพิ่มเติม
คำตัดสินศาลมีขึ้น หลังหลายๆ รัฐที่พรรครีพับลิกันครองความนิยมข้างมาก รวมถึงบริษัทเอกชนหลายแห่ง ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งบังคับของไบเดน
ด้านสีมา นันดา ทนายความระดับสูงจากกระทรวงแรงงาน ได้กล่าวโต้คำร้องนี้ เมื่อวันศุกร์ (5 พ.ย.) ว่ากระทรวง “มั่นใจในอำนาจทางกฎหมายของตน” ในการออกคำสั่งบังคับดังกล่าว ซึ่งสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัยแห่งชาติ สหรัฐฯ (OSHA) จะเป็นผู้นำไปบังคับใช้
“สำนักงานฯ มีอำนาจในการดำเนินการอย่างฉับไว ในกรณีฉุกเฉินที่สำนักงานฯ พบว่ามีพนักงานตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง และจำเป็นต้องใช้มาตรฐานใหม่เพื่อปกป้องพวกเขา” เธอกล่าว พร้อมเสริมว่าทีมบริหารเตรียมพร้อมที่จะปกป้องมาตรฐานนี้อย่างเต็มที่ในชั้นศาล
ที่มา – ซินหัว