ประเด็นสำคัญ
- รัฐบาลอิตาลีเตรียมขยายระยะเวลาบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ และกฎระเบียบกรีนพาส (green pass) จนถึงปีหน้า
- หลังจากอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อโรคโควิด-19 ในประเทศกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
- ในขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป ครอบคลุม 83% ของประชากรแล้ว
- ส่วนอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลและการเสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับต่ำ
…
นิโน การ์ตาเบลโลตตา จากมูลนิธิสาธารณสุขจิมเบ (Gimbe Foundation) เผยว่าอัตราการติดเชื้อรายสัปดาห์ของอิตาลีเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า “ไวรัสเริ่มกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง”
โดยล่าสุด อิตาลีรายงานการพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 5,188 ราย แม้ว่าเมื่อวันอังคาร (2 พ.ย.) อิตาลีตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มกว่า 2,800 ราย นับเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่ตัวเลขรายวันต่ำกว่า 4,000 ราย
ส่วนเมื่อวันศุกร์ (29 ต.ค.) ยอดผู้ป่วยใหม่พุ่งสูงถึง 5,334 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ขณะตัวเลขผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวเริ่มกลับมาพุ่งสูงอีกครั้งตั้งแต่ต้นสัปดาห์ก่อน หลังร่วงลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันแรกของเดือนกันยายน
ทำให้ค่าเฉลี่ยของผู้ป่วยรายใหม่ในรอบ 7 วันอยู่ที่ราว 4 พันกว่าราย/วัน แล้ว ในขณะที่เมื่อช่วงกลางเดือนต.ค. ที่ผ่านมามีจำนวนเฉลี่ยราววันละ2 พันกว่าราย โดยในปี 2021 นี้ อิตาลีพบผู้ป่วยสูงสุดอยู่ที่ ประมาณวันละ 2 หมื่นกว่าราย เมื่อช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนลดลงอย่างต่อเนื่องจนต่ำสุดในช่วงดือน ก.ค. 2564 ที่พบเพียงราววันละ 5-6 ร้อยรายเท่านั้น
อย่างไรก็ดี ยอดผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างรักษาตัวในอิตาลีเกือบ 85,000 ราย ยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดของปีนี้ ซึ่งอยู่ที่เกือบ 550,000 รายในเดือนมีนาคม และจุดสูงสุดตลอดกาลที่มากกว่า 800,000 รายในเดือนพฤศจิกายน 2020 โดยรัฐบาลกำลังเร่งจัดการกับแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างจริงจัง
กลุ่มสื่ออิตาลีต่างรายงานว่าอิตาลีจะขยายระยะเวลาบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินที่จะหมดอายุวันที่ 31 ธ.ค. จนถึงปีหน้า ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะนานถึงเดือนมีนาคม 2022 ขณะการบังคับใช้กรีนพาสเพื่อแสดงสถานะสุขภาพของผู้อยู่อาศัยจะถูกขยายจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า
อนึ่ง การบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินเป็นการให้อำนาจชั่วคราวแก่รัฐบาลเพื่อดำเนินการรับมือกับโรคระบาดและจัดสรรงบประมาณได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังครอบคลุมการบังคับใช้ข้อจำกัดการเดินทาง ตลอดจนข้อกำหนดเว้นระยะห่างทางสังคมและสวมหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ อัตราการฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในจุดแข็งของอิตาลีในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้ประชาชนอายุ 12 ปีขึ้นไป จำนวน 44.8 ล้านคน หรือร้อยละ 83 ของประชากรกลุ่มอายุดังกล่าว ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ทว่าข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ลา สแตมปา ชี้ว่าอัตราการฉีดวัคซีนในประเทศกำลังชะลอตัวลงอย่างมาก โดยมีการฉีดวัคซีนเพียง 184,000 โดสในสัปดาห์ก่อน ลดลงจาก 345,000 โดสในสัปดาห์ก่อนหน้า
แอนเดรีย คอสตา รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสาธารณสุข เผยว่าข้อจำกัดในปัจจุบันจะยังคงมีผลบังคับใช้จนกว่าอัตราการฉีดวัคซีนจะเพิ่มขึ้น แต่อาจเริ่มเปลี่ยนแปลงแนวทางการใช้กรีนพาสหากประชาชนได้รับวัคซีนถึงร้อยละ 90 แล้ว
ด้านฟาบริซิโอ เปรเกลียสโก นักไวรัสวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยมิลาน แสดงความเห็นพ้องกับการขยายระยะเวลาข้างต้น ชี้ว่ามาตรการเฝ้าระวังและการฉีดวัคซีนของประเทศมีแนวโน้มประสบผลสำเร็จ ส่วนมาตรการล็อกดาวน์วงกว้างน่าจะเป็นตัวเลือกสุดท้าย
แม้อัตราการติดเชื้อในอิตาลีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่อัตราการเสียชีวิตรายวันยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งอยู่ที่มากกว่า 700 ราย รวมถึงต่ำกว่าเมื่อเดือนมีนาคมและธันวาคมปีก่อน ซึ่งอยู่ที่เกือบ 1,000 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 132,224 ราย
ส่วนอัตราการรักษาตัวในโรงพยาบาลและจำนวนผู้ป่วยหนักยังคงต่ำกว่าจุดสูงสุดก่อนหน้านี้มาก
ที่มา – ซินหัว