สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศสิงคโปร์ยังคงในระดับที่สูง โดยเฉพาะเมื่อวานที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ได้รายงานการพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มอีก 5,324 ราย รวมสะสม 184,419 ราย
ซึ่งถือเป็นยอดการพบผู้ป่วยต่อวันสูงที่สุดของสิงคโปร์ นับตั้งแต่มีการระบาดเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราการพบผู้ป่วยเฉลี่ยต่อวันในขณะนี้ ยังคงสูงกว่า 3 พันราย / วัน
สำหรับผู้ป่วยส่วนใหญ่ในสิงคโปร์พบว่า 98.7% เป็นผู้ป่วยอาการเบา หรือไม่มีอาการ มีราว 0.9% ที่ต้องให้ออกซิเจน และราว 0.1% ต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู
ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 10 ราย รวมเป็น 349 ราย โดยทั้ง 10 รายนั้น อายุระหว่าง 54 ถึง 96 ปี
สำหรับยอดการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 5 พันรายนั้น กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ระบุว่า เป็นยอดที่มีอัตราสูงมากกว่าปรกติ ที่รายงานจากห้องปฏิบัติการเมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ผ่านมา และยังคงเร่งการสอบสวนโรค รวมถึงติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วง 2-3 วันข้างหน้า ว่ายอดการพบจะพบคลัสเตอร์ใหญ่ ทำให้ยอดพุ่งขึ้นในระยะสั้น ๆ หรือไม่ เนื่องจากเป็นยอดที่มีรายงานเข้ามาในช่วงบ่ายวานนี้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
โดยในจำนวน 5,324 รายนั้น พบว่า เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อในชุมชนสูงถึง 4,651 ราย, พบในหอพักแรงงานต่างชาติ 661 ราย และเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศเพียง 12 ราย
เร่งเพิ่มเตียงไอซียู
จากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยอาการหนักที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หรืออยู่ในห้องไอซียูมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น โดยในขณะนี้มีผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว 1,777 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องให้ออกซิเจนจำนวน 308 ราย, อยู่ในห้องไอซียู 142 ราย ในจำนวนนี้มี 66 รายที่ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ
ทำให้อัตราการครองเตียงในป้องไอซียูในขณะนี้อยู่ที่ 79.8% ทำให้ทางการสิงคโปร์ต้องเร่งดำเนินการเพิ่มเตียงไอซียูให้มากขึ้น สำหรับรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในขณะนี้จำนวนเตียงไอซียูเหลือว่างอีก 72 เตียง
โดยอัตราการพบผู้ป่วยหนักที่ต้องรักษาตัวในรอบ 7 วันที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว อยู่ที่ราว 0.5 ต่อประชากร 1 แสนคน เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนอยู่ที่ 4.3 ต่อประชากร 1 แสนคน
สำหรับ
