ต่างประเทศ โควิด-19

สิงคโปร์ต่ออายุมาตรการป้องกันโควิดออกไปอีก เกรงผู้ป่วยล้น-เตียงเต็ม

เนื่องจากยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง อัตราการครองเตียงสูงเกือบ 90% และเตียงไอซียูถูกใช้แล้ว

Home / โควิด-19 / สิงคโปร์ต่ออายุมาตรการป้องกันโควิดออกไปอีก เกรงผู้ป่วยล้น-เตียงเต็ม

ประเด็นสำคัญ

  • รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศต่ออายุมาตรการจำกัดโควิด-19 ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงวันที่ 21 พ.ย. 2564
  • เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพของระบบสาธารณสุขให้รองรับกับจำนวนผู้ป่วยได้
  • ซึ่งในขณะนี้ เตียงในโรงพยาบาลถูกใช้ไปแล้ว 89% ส่วนเตียงไอซียู ใช้ไปแล้ว 67%
  • กลุ่มผู้สูงอายุยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยงในการป่วยรุนแรง-เสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มที่มีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย

ทางการสิงคโปร์ประกาศต่ออายุมาตรการจำกัดโควิด-19 ออกไปจนถึงวันที่ 21 พ.ย. นี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบสาธารณสุขของประเทศ หลังการปรับมาตรการต่าง ๆ และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยเมื่อวานนี้ สิงคโปร์รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 3,862 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 158,587 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 18 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 264 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันในขณะนี้อยู่ที่ระดับกว่า 3 พันรายต่อเนื่องกันมาเป็นหลายวันแล้ว ทำให้สถานการณ์ของการรับมือกับการระบาดที่เกิดขึ้น เริ่มเข้าสู่สภาวะตึงตัวอีกครั้ง

จากยอดผู้ป่วยรายใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น มีราว 10% ที่จะเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหนักและจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งในขณะนี้เตียงผู้ป่วยโควิด-19 1,650 เตียง ถูกใช้ไปแล้วเกือบ 1,500 เตียง หรือคิดเป็น 89% ในขณะที่เตียงผู้ป่วยไอซียู จำนวน 200 เตียง ถูกใช้ไปแล้ว 67% จากทั้งผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยอื่น ๆ

สำหรับผู้ป่วยอาการรุนแรงในขณะนี้ มีจำนวน 495 ราย หรือราว 54.7% เป็นผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่เหลือเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว แต่มีอาการป่วยอื่น ๆ ร่วมด้วย ทำให้มีอาการรุนแรงขึ้น

ซึ่งส่งผลต่ออัตราการรอเตียงในการจัดส่งผู้ป่วยทั้งจากโควิด-19 และโรคอื่น ๆ จำเป็นต้องรอคิวที่นานขึ้นในบางโรงพยาบาล และหากจำเป็นรัฐบาลก็จะมีการเพิ่มเติมเตียงผู้ป่วยไอซียูเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การเปิดเพิ่มนั้นก็จะยังคงมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับการรักษาผู้ป่วยตามปรกติ

นอกจากนี้จะมีแนวทางในการลดจำนวนผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วน ไม่รุนแรงต่อชีวิต เพื่อลดภาระของโรงพยาบาล และบุคลากรให้มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มจำนวนบุคลากรในโรงพยาบาลด้วย ให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งจากผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยอื่น ๆ

กลุ่มเสี่ยงยังคงเป็นผู้สูงอายุ

ผู้ป่วยอาการรุนแรง และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือผู้ที่เสียชีวิตในสิงคโปร์ส่วนใหญ่ ยังคงเป็นผู้สูงอายุ โดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 18 ราย ซึ่งมีอายุระหว่าง 55-96 ปี โดยในจำนวนนี้มี 8 รายที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 , มี 1 รายที่ได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็ม และที่เหลือ 9 ราย ได้รับวัคซีนแล้วจำนวน2 เข็ม

แม้ว่าประเทศสิงคโปร์จะมีอัตราการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนแล้วกว่า 80% ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 ไปแล้ว และในกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนมากได้รับวัคซีนกระตุ้นในเข็มที่ 3 ไปแล้วก็ตาม แต่อัตราการป่วยหนัก – เสียชีวิตของกลุ่มผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโรคอื่น ๆ ร่วมด้วย

จำเป็นต้องต่ออายุมาตรการจำกัดออกไปอีก 1 เดือน

จากมาตรการที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทางการสิงคโปร์ระบุว่า ช่วยรักษาอัตราการระบาดได้ในระดับปานกลาง แต่จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มสูงขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบสาธารณสุขไว้ ทำให้ต้องต่ออายุมาตรการ จำกัดการระบาดของโควิด-19 ออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวอาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้อีกครั้งในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หากสถานการณ์การระบาดดีขึ้น ก็อาจจะมีการพิจารณาการผ่อนคลายเพิ่มขึ้น

โดยมาตรการหลัก ๆ ยังคงอยู่ เช่น การเน้นการทำงานที่บ้าน, การห้ามรวมกลุ่ม หรือรับประทานอาหารเกินกว่า 2 คน แม้ว่าทางกลุ่มร้านอาหารจะได้มีการขอผ่อนคลายเป็น 5 คนก็ตาม

และจากการต่ออายุมาตรการดังกล่าวทำให้รัฐบาลสิงคโปร์จะอุดหนุนเงินช่วยเหลือในกลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการต่าง ๆ เหล่านี้อีก 640 ล้านเหรียญฯ เช่นในกลุ่มร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส ฯลฯ ตลอดจนมีการลดค่าเช่าลง ครึ่งเดือน ในกลุ่มอสังหาฯ ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของด้วย

ส่วนในกลุ่มของคนขับรถแท็กซี่ – รถเช่า จะได้รับเงินช่วยเหลือ 10 เหรียญฯ และ 5 เหรียญฯ ต่อคันต่อวัน ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. นี้

ตรวจ ATK ในโรงเรียน

ในขณะเดียวกัน ในส่วนของโรงเรียนต่าง ๆ จะยังคงเปิดการเรียนการสอน ร่วมกับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK ในทุก 2 สัปดาห์ ให้กับนักเรียน ครู และเจ้าหน้าที่ ซึ่งทางการสิงคโปร์จะมีการแจ้งชุดตรวจดังกล่าวให้กับ นักเรียน คนละ 10 ชุด เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. นี้ไป เพื่อใช้ในการตรวจหาเชื้อ

ซึ่งหากผลตรวจเป็นบวกและไม่มีอาการป่วย ก็จะให้ทำการกักตัวเป็นเวลา 3 วัน และตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หากผลเป็นลบ ก็ไม่จำเป็นต้องกักตัว และสามารถกลับมาเรียนได้ตามปรกติ ส่วนกรณีที่มีอาการป่วยก็จะให้เข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลต่อไป


ข้อมูล – https://www.gov.sg/article/stabilising-singapores-covid-19-situation-and-protecting-our-overall-healthcare-capacity