ประเด็นสำคัญ
- สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยอดผู้ป่วยพุ่งทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยพบเพิ่มอีก 3,994 ราย
- พบการติดเชื้อในชุมชนเพิ่มสูงขึ้น หลักปรับมาตรการผ่อนคลาย อยู่ร่วมกับโควิด-19
- เดินหน้าฉีดวัคซีนต่อเนื่อง โดยมีผู้ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วกว่า 4.6 ล้านคน หรือราว 82% ของจำนวนประชากร
- สหรัฐฯ ปรับระดับการเตือนภัย ให้สิงคโปร์ขึ้นมาเป็นระดับ 4 ห้ามเดินทาง เช่นเดียวกับ ไทย มาเลเซีย ลาว กัมพูชา เมียนมา หลังยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงเกิน 500 ราย ต่อประชากร 1 แสนราย
…
การระบาดของโควิด-19 ในประเทศสิงคโปร์ยังคงมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางนโยบายการเปิดประเทศ และอยู่ร่วมกับโควิด-19 ของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยยอดล่าสุดของเมื่อวานที่ผ่านมา ( 19 ต.ค.) กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์รายงานยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3,994 ราย โดยเป็นยอดผู้ป่วยรายใหม่/วัน สูงที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ในสิงคโปร์
ทำให้ในขณะนี้ สิงคโปร์มีผู้ป่วยโควิด-19 สะสม 154,725 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 7 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 246 ราย และในขณะนี้มีผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาตัวทั้งในโรงพยาบาล และกักตัวที่บ้านทั้งหมด 26,908 ราย
โดยการระบาดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นการพบการติดเชื้อในชุมชน ร่วมกับในหอพักแรงงานต่างชาติในประเทศสิงคโปร์ เป็นส่วนใหญ่ ต่างจากการระบาดในระลอกแรก ๆ ที่เป็นการติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นหลัก
ซึ่งในช่วง 4 วันก่อนหน้านี้ แนวโน้มของการพบผู้ติดเชื้อในสิงค์โปร์ ดูเหมือนจะเริ่มชะลอตัว และลดลง แม้ว่าจะมีการเริ่มการปรับมาตรการอยู่ร่วมกับโควิด-19 แต่กลับพบการติดเชื้อในชุมชนมากขึ้นอีกครั้ง
แม้ว่ายอดผู้ป่วยจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ทางการสิงคโปร์ ยังคงเดินหน้ามาตรการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ต่อไป โดยจะมีการติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่ออีกสักระยะ เพื่อพิจารณามาตรการในช่วงถัดไป
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาหลังจากมีการปรับมาตรการการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ก็มีการเปิดกิจกรรม, กิจการต่าง ๆ มากขึ้น ซึ่งทำให้มีผู้คนออกมาใช้ชีวิตกันเพิ่มากขึ้น จึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้
ซึ่งจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวที่บ้าน 16,377 ราย และเข้ารับการรักษาตัวในชุมชน 3,812 ราย ในสถานรักษาโควิด-19 อีก 851 ราย
ส่วนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลนั้นมีอยู่จำนวน 1,738 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 338 ราย และผู้ป่วยหนักในห้องไอซียู 71 ราย และยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีน มีจำนวนการติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น และในกลุ่มนี้คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นผู้ป่วยอาการหนักเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลต่อระบบสาธารณสุขที่ต้องแบกรับภาระมากยิ่งขึ้น
ยอดผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
จากจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่ม 7 รายวานนี้ ยังคงอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุเป็นหลัก มีอายุระหว่าง 57 – 90 ปี โดยที่มี 3 รายไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาก่อน อีก 3 รายที่ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว และอีก 1 รายมีประวัติได้รับวัคซีนแล้ว 1 เข็ม
อย่างไร ก็ตามทางการสิงคโปร์ระบุว่า ในจำนวนนี้ 6 รายมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพบางอย่าง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ฉีดวัคซีนต่อเนื่อง
ทางการสิงคโปร์ยังคงเดินหน้าการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการฉีดวัคซีนกระตุ้นในเข็มที่ 3 ให้กับกลุ่มเป้าหมายด้วย เพื่อต้องการลดจำนวนการติดเชื้อ ผู้ป่วยหนัก รวมถึงการเสียชีวิตด้วย
โดยในขณะนี้ มีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 9,662,027 โดส ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม จำนวน 4,622,432 คน หรือคิดเป็นราว 83% ของจำนวนประชากรในสิงคโปร์
ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วจำนวน 4,562,307 ราย หรือราว 82% ของจำนวนประชากร
…
สหรัฐฯ ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 4 ห้ามเดินทาง
จากการระบาดที่ยังคงมีจำนวนที่สูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุด ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยในการเดินทางของสิงคโปร์เป็นระดับ 4 คือ ห้ามเดินทาง เนื่องจากสถานการณ์ของการระบาดที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเกิน 500 รายต่อประชากร 1 แสนราย ในช่วง 28 วันที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ สิงคโปร์ถูกจัดอยู่ในระดับที่ 3 ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งในการเตือนภัยการท่องเที่ยวของทางสหรัฐฯ ในระดับที่ 4 นั้น ไม่ได้มีเฉพาะสิงคโปร์เท่านั้น แต่มีประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ เช่น ออสเตรีย, สหราชอาณาจักร, กรีซ หรือประเทศในภูมิภาคอาเชียน ไม่ว่าจะเป็น ไทย กัมพูชา มาเลเซีย บรูไน ลาว เมียนมา