ประเด็นสำคัญ
- สวีเดน และเดนมาร์ประกาศระงับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาให้กับกลุ่มอายุน้อยเป็นการชั่วคราว
- หลังผลการศึกษาของกลุ่มประเทศนอร์ดิกระบุว่า มีความเชื่อมโยงกับการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจ หรือ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ มากกว่าปรกติ แม้ว่าภาวะดังกล่าวจะพบได้น้อยก็ตาม
…
ประเทศสวีเดน และเดนมาร์กได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่าจะมีการระงับการใช้งานวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของโมเดอร์นา ในกลุ่มอายุน้อย หลังจากปรากฎรายงานผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีนที่บ่งชี้ว่า อาจจะก่อให้เกิดภาวะของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้
สวีเดน ประกาศระงับในกลุ่มอายุต่ำกว่า 30
สำหรับประเทศสวีเดน ได้ประกาศระงับการฉีดวัคซีนโมเดอร์น่า ให้กับผู้ที่เกิดหลังจากปี 2534 เป็นต้นมา โดยให้สาเหตุว่า พบความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือ ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้ มากกว่าปรกติ แม้ว่าความเสี่ยงนี้จะอยู่ในจำนวนไม่มากก็ตาม
ซึ่งในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา European Medicines Agency หรือ EMA ได้อนุญาตให้มีการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาให้กับวัยรุ่นอายุ 12-17 ปี เพิ่มจากเดิมที่เคยประกาศให้กลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับวัคซีนโมเดอร์น่าได้ และหลังจากที่ได้มีการฉีดวัคซีนจำนวนหลายล้านโดส ให้กับกลุ่มผู้ใหญ่ รวมถึงกลุ่มวัยรุ่น อายุ 12-17 ปี ซึ่งจากศึกษาพบว่า
มีความเชื่อมโยงที่ค่อนข้างชัดเจนกับการได้รับวัคซีนโมเดอร์นา ที่จะพบการภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอับเสบ โดยเฉพาะหลังจากที่รับวัคซีนในช่วง 2 สัปดาห์หลังได้รับวัคซีน และมักพบในกลุ่มของเพศชายมากกว่าเพศหญิง
ทำให้หน่วยงานสาธารณสุขของสวีเดน ตัดสินใจระงับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาในกลุ่มอายุต่ำกว่า 30 ปีเป็นการชั่วคราว โดยมีผลถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2564
เดนมาร์ก ระงับใช้ในกลุ่มวัยรุ่น
ในขณะที่เดนมาร์ก หน่วยงานด้านสาธารณสุขได้รายงานว่า ผลจากการศึกษาในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ซึ่งประกอบไปด้วย เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน มีข้อสังเกตว่า ความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เพิ่มสูงขึ้นหลังจากการได้รับวัคซีนโมเดอร์น่า แม้ว่าจำนวนของผู้ป่วยยังคงอยู่ในระดับต่ำมากก็ตาม
จึงทำให้ทางเดนมาร์กจำเป็นที่จะต้องมีการระงับการฉีดวัคซีนในกลุ่มวัยรุ่น ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการป้องกัน
โดยในขณะนี้ ทางกลุ่มประเทศนอร์ดิก อยู่ในระหว่างการรวบความข้อมูลผลการศึกษาเบื้องต้น และส่งไปยังEuropean Medicines Agency หรือ EMA
…
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศยังคงเดินหน้าการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มดังกล่าว โดยใช้วัคซีนของไฟเซอร์ ในการฉีดให้กับกลุ่มวัยรุ่นต่อไป