ประเด็นสำคัญ
- กัมพูชาเริ่มเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว
- โดยมีประชากรวัยผู้ใหญ่ ราว 10 ล้านคน และวัยรุ่นอีกเกือบ 2 ล้านคน ได้รับวัคซีนแล้ว
- รวมผู้ได้รับวัคซีนทั่วประเทศราวเกือบ 12 ล้านคน หรือคิดเป็น71.8% ของจำนวนประชากร
- สำหรับนักเรียนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน จะให้มีการเรียนการสอนผ่านช่องทางออนไลน์แทน
…
เมื่อวันพุธ (15 ก.ย.) โรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายในกัมพูชาทยอยเปิดการเรียนการสอนตามปกติ หลังจากประชากรส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แล้ว
กัมพูชา ซึ่งมีประชากรทั้งหมด 16 ล้านคน เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ประชากรวัยผู้ใหญ่ 10 ล้านคน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และเริ่มฉีดให้วัยรุ่นอายุ 12-18 ปี เกือบ 2 ล้านคน เมื่อเดือนสิงหาคม
ปัจจุบันกัมพูชามีผู้ใหญ่และวัยรุ่นฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกแล้ว 9.77 ล้านคน และ 1.71 ล้านคน ตามลำดับ คิดเป็นร้อยละ 71.8 ของประชากรทั้งหมด โดยวัคซีนส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นของซิโนแวคและซิโนฟาร์มจากจีน
ก่อนหน้านี้ ฮอง จวน นารน รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการกัมพูชา กล่าวว่าคณะครูและนักเรียนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนก่อนเข้าโรงเรียน
ส่วนครูและนักเรียนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนไม่ควรเข้ามาในบริเวณโรงเรียน แต่ยังสามารถสอนหรือเรียนทางออนไลน์ ขณะเดียวกันจะมีการระงับชั้นเรียนหรือปิดโรงเรียนชั่วคราวหากพบการระบาด และต้องแจ้งเรื่องต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยทันที
ด้านลี ไอแลน ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำกัมพูชา ชื่นชมการทยอยเปิดโรงเรียน พร้อมอ้างอิงหลักฐานว่าเด็กและโรงเรียนไม่ใช่ตัวการหลักผลักดันการระบาดของโรค โดยเด็กมีโอกาสป่วยหนักหรือเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ใหญ่มาก
ลีเสริมว่าการปิดโรงเรียนเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเด็กอย่างมาก ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และการเรียนรู้ ตลอดจนเพิ่มภาระให้พ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องทำงานหาเงิน
โฟรูฟ โฟยูซาท ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ประจำกัมพูชา ชี้ว่าการเปิดโรงเรียนตามปกติเป็นผลจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความคืบหน้า พร้อมแนะนำเปิดโรงเรียนในพื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อต่ำก่อน โดยจำกัดขนาดชั้นเรียนและป้องกันโรคอย่างเข้มงวด
สม คำสาน จากโรงเรียนมัธยมปลายพระสีสุวัตติ์ เผยว่าโรงเรียนดำเนินการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด นักเรียนต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายและล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนเข้าโรงเรียน รวมถึงจำกัดจำนวนนักเรียนในห้องเรียนไม่เกิน 15 คน และนั่งห่างกันอย่างน้อย 1.5 เมตร
ขุน โสเพียก นักเรียนวัย 15 ปี เผยความดีใจที่ได้กลับมาเรียนตามปกติ เพราะการเรียนออนไลน์ทำให้เครียดมากกว่า โดยตอนนี้เธอฉีดวัคซีนของซิโนแวคครบโดสแล้ว และมั่นใจในความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพของวัคซีนตัวนี้